Connect with us

PINGBOOK

KOREA

อีมินโฮ (Lee Minho) ผนึก คิมแรวอน ในหนังมาเฟีย ‘Gangnam Blues’ ฉายไทย 29 ม.ค.นี้! (2015-01-16)

Gangnam Blues – โอปป้า ซ่ายึดเมือง นำแสดงโดย ลีมินโฮ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2513 (ค.ศ.1970) เป็นยุคที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ผจญกับภัยอันตรายจากพวกมาเฟีย และนักการเมืองท้องถิ่นที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด บวกกับความโลภที่อยากจะเข้าครอบครองเขตพื้นที่ ‘คังนัม’ ที่ดินที่ถูกคาดเดาว่าจะเป็นเขตพื้นที่ที่มีมูลค่าแพงดังทองคำ มีกำหนด เข้าฉายวันที่ 29 มกราคม นี้ 

เรื่องย่อ
ปี 1970 เริ่มแผนระห่ำยึดครองถิ่นกังนัม จองแด (ลีมินโฮ) และยองกี (คิมแรวอน) เป็นเด็กกำพร้าที่่กลายมาเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร พวกเขาก็ไม่สามารถหนีไปจากความยากจนและเมืองโกโรโกโสที่พวกเขาอาศัยอยู่ได้ แต่เมื่อที่อยู่ของพวกเขากำลังจะถูกรื้อจากแผนการพัฒนาพื้นที่ ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนกลายเป็นคนไร้บ้าน เมื่อแก๊งค์มาเฟียแถวนั้นขาดคน จองแดและยองกีจึงเข้าร่วมแก๊งค์ โดยงานของพวกเขาคือการไปทำลายการชุมนุมทางการเมือง แต่ท่ามกลางความวุ่นวาย จองแดกับยองกีก็พลัดจากกัน

3 ปีต่อมา จองแดได้เข้าร่วมเข้าแก๊งค์มาเฟีย เขาและพวกเริ่มกว้านซื่อที่นาในกังนัมก่อนที่พื้นที่นี้จะกลายเป็นเมืองสำคัญเมืองใหม่ของเกาหลี เมื่อแก๊งค์คู่อริล่วงรู้ถึงแผนนี้ จองแดจึงได้พบกับศัตรูของเขา ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกล หากแต่เป็นยองกีนั่นเอง

 

 

เกี่ยวกับภาพยนตร์

 

ผู้กำกับยูฮา เจ้าของสามผลงานไตรภาค Spirit of Jeet Keun Do, A Dirty Carnivalและ Gangnam Blues สามภาพยนตร์ที่ใช้เวลาสิบปีจนกว่าจะสร้างครบ! 

 

Gangnam Blues เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้หนังไตรภาคชุดแก๊งค์ข้างถนนของผู้กำกับยูฮาสมบูรณ์ ซึ่งเขาได้มุ่งทำหนังไตรภาคชุดนี้มาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อสิบปี่แล้ว ยูฮาได้กำกับ Spirit of Jeet Keun Do ซึ่งเล่าเรื่องของวัยรุ่นที่เข้าไปพัวพันกับความรุนแรงภายใต้ระบบการศึกษาของเกาหลีใต้ และเป็นเวลา 8 แล้ว ที่ยูฮาได้กำกับภาพยนตร์เรื่อง A Dirty Carnival ที่กล่าวถึงการใช้เงินในการก่อกำเนิดความรุนแรง

 

ในฐานะภาพยนตร์ปิดไตรภาคชุดนี้ของยูฮา Gangnam Blue เล่าถึงเรื่องราวของทศวรรษอันวุ่นวายในประวัติศาสตร์เกาหลี เมื่อแรกมีการพัฒนาเขตกังนัม เช่นเดียวกับภาพยนตร์สองเรื่องที่ผ่านมาของเขา ถนนในกังนัม สร้างมาด้วยความรุนแรงและการสมคบคิดของผู้ที่มีอำนาจ และไม่มีอำนาจ 

 

ภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องนั้น เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเขตกังนัม อันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความมั่งคั่ง เราอาจเรียกภาพยนตร์ไตรภาคชุดนี้ว่าเป็นไตรภาคชุดกังนัมก็ได้ และจากการที่ภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องมีตัวเอกเป็นวัยรุ่น เราก็อาจเรียกมันเป็นว่าไตรภาคชุดวัยรุ่นได้ด้วยเช่นกัน ครั้งผู้กำกับยูฮา ได้ทุ่มสุดฝีมือในการปิดฉากภาพยนตร์ไตรภาคของเขาด้วย Gangnam Blues

 

อีมินโฮ และคิมแรวอน ร่วมงานกับ ผกก. มือปั้นดาวอย่างยูฮา!

 

อีมินโฮและคิมแรวอนจะเปลี่ยนไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับยูฮา เคยมีผลงานในการเปลี่ยนควอนซังวู (Spirit of Jeet Keun Do) และโจอึนซอง ให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์มาแล้วในอดีต คราวนี้ เขากำลังจะเปลี่ยนอีมินโฮ และคิมแรวอน ให้กลายเป็นตัวละครสุดทะเยอทะยานใน Gangnam Blues

 

อีมินโฮโด่งดังจากการรับบทในซีรียส์ชุดรักฉบับใหม่หัวใจ4ดวง (Boys over Flowers)ซึ่งเขารับบทเป็นคุณชายผู้ร่ำรวย แต่ในครั้งนี้ เขาได้หวนกลับมารับบทจริงจังอีกครั้ง ในบทบาทของเด็กหนุ่มผู้ไม่สามารถหนีพ้นความยากจนไปได้ และตัดสินใจที่จะขีดเขียนชะตาชีวิตของเขาด้วยสองมือของเขาเองโดยการเข้าร่วมแก๊งค์มาเฟียปละดำดิ่งสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีกำไรมากมาย แววตาอันเย็นเฉียบและฝีหมัดที่ร้ายกาจ อาจทำให้แฟนๆของอีมินโฮที่คุ้นเคยกับภาพลักษณ์สุดโรแมนติครู้สึกไม่คุ้นชิน แต่แฟนๆ จะได้เห็นอีกด้านหนึ่งของซูเปอร์สตาร์คนนี้ในบทบาทสุดเข้ม 

 

คิมแรวอน รับบทเป็นยองดี ซึ่งเป็นตัวละครที่จะไม่หยุดเดินหน้าจนกว่าจะได้ตามเป้าหมาย แม้ว่านั่นจะคือการฆ่าลูกน้องของเขาก็ตาม ในขณะเดียวกัน เขายังเป็นพี่ร่วมสาบานที่แสนใจดีของจองแด ที่สองคนนี้ได้พบกันที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สองแง่มุมในตัวละครนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ตัวละครนี้เป็นที่น่าติดตาม เพราะว่าเขาเป็นคนที่คาดเดาไม่ได้ สำหรับคนที่กลายมาเป็นเบอร์สองในแก๊งค์มาเฟีย ในตัวของเขาย่อมมีความลึกลับและเด็ดเดี่ยว เขาเป็นคนที่จะต้องทำทุกอย่างให้เสร็จทันเวลา นี่เป็นบทที่คิมแรวอนจะได้กลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง

 

เกี่ยวกับการถ่ายทำ

 

ฉากแอ๊คชั่นในที่ประชุมพรรคการเมือง ที่เล่นจริง เจ็บจริง ใน Gangnam Blues

 

1 สัปดาห์ กับนักแสดง และทีมสตันท์กว่า 150 คน! กับฉากแอ๊คชั่นแบบไม่มียั้งท่ามกลางโคลนและฝน! 

 

“ไม่ว่านี่จะเป็นภาพยนตร์แนวไหนก็ตาม แต่ฉากแอ๊คชั้่นนั้นจะต้องมีเพื่อเป็นส่วนเสริมของดราม่าในเรื่อง” ผู้กำกับยูฮากล่าวถึงแนวทางในการกำกับฉากแอ๊คชั่น ที่เป็นส่วนใหญ่ของภาพยนตร์เรื่อง Gangnam Blues ฉากสำคัญที่จองแดกับยองกีจะต้องสู้กับศัตรูนั้น มีความสำคัญมากกว่าฉากดราม่าฉากไหนๆในเรื่อง ฉากแอ๊คชันในภาพยนตร์เรื่องนี้ ออกมาจากคาแร็กเตอร์ที่ต้องการเอาชีวิตรอด ตัวอย่างที่เห็นได้ฉากหนึ่งคือฉากการปะทะกันของสองแก๊งค์ท่ามกลางโคลน ผู้กำกับยูฮาต้องการเสนอถึงชะตากรรมของสองตัวละครและความสิ้นหวังขณะที่พวกเขาต้องสู้กับศัตรูท่ามกลางโคลน ทีมงานต้องพยายามอย่างมากที่จะหาจุดที่เหมาะสมในการถ่ายทำโดยต้องนำดินมาเทในบริเวณนั้น เพื่อให้ฉากแอ๊คชั่นมีความสมจริง ฉากนี้จึงถ่ายทำด้วยกล้องสเตดิแคม เพื่อให้สามารถถ่ายทำเทคที่มีความต่อเนื่องยาวนานได้ ฉากนี้ใช้นักแสดงและสตันท์กว่า 150 คน ในการถ่ายทำวันละ12 ชั่วโมงเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ท่ามกลางสายฝน

เพราะฉากนี้ ถ่ายทำโดยไม่มีการใช้ตัวแสดงแทน นักแสดงจึงได้รับบาดเจ็บจริงๆในการถ่ายทำและต้องเดือดร้อนจากโคลน นักแสดงหลายคนต้องเข้าโรงพยาบาล หลังการถ่ายทำในแต่ละเทค ผู้ช่วยผู้กำกับจะตะโกนถามว่า มีใครได้รับบาดเจ็บมั้ย อีมินโฮได้รับบาดเจ็บที่นิ้วโป้งในการถ่ายทำฉากนี้และต้องฉีดมอร์ฟีนเพื่อให้สามารถถ่ายทำฉากนี้ได้จนจบ ฉากนี้ไม่เพียงแต่เป็นฉากที่ตัวละครต้องกระเสือกกระสนเท่านั้น แต่การถ่ายทำฉากนี้เป็นเสมือนสงครามสำหรับนักแสดง สตันท์ และทีมงาน ขณะที่ฝนตกลงมาจนดินกลายเป็นโคลน ไม่มีใครสามารถแยกแยะออกได้ว่าคนไหนคือเพื่อนคนไหนคือศัตรู การแค่จะเดินข้ามทุ่งนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ในสภาพที่หนักหนาสาหัสขนาดนั้น นักแสดงทุกคนรวมทั้งอีมินโฮและคิมแรวอนทุ่มเทใจและจิตวิญญาณในการถ่ายทำฉากนี้จนเสร็จสิ้นตามที่ผู้กำกับต้องการ

 

เกี่ยวกับนักแสดง

ลีมินโฮ รับบท คิมจองแด

“จำได้มั้ยว่าการไม่มีห้องจะอยู่มันลำบากแค่ไหน?” – คิมจองแด คนหนุ่มผู้ไม่เกรงกลัวสิ่งใด

เขาไม่มีอะไรเลยนอกจากชื่อของเขา สิ่งเดียวที่เขาพึ่งพาได้คือหมัด ตั้งแต่เป็นเด็กกำพร้า จองแดนับถือยองกี ที่อายุมากกว่าเขา 2-3 ปี พวกเขามีกันเพียงสองคน แต่เมื่อเขาต้องพลัดพรากจากยองกีระหว่างงานงานหนึ่ง อดีตหัวหน้าแก๊งค์ได้อุปการะเขาและชักจูงให้เขาหันไปใช้ชีวิตในแบบที่ถูกต้องและมีศีลธรรม แต่จองแดไม่ต้องการที่จะทิ้งความทะเยอทะยานในตัวไป ท้ายที่สุด เขาก็ถูกดึงกลับไปสู่โลกใต้ดินอันมืดหม่นและเข้าไปพัวพันกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

นี่คือบทพิสูจน์การเป็นนักแสดงคุณภาพของลีมินโฮ

อีมินโฮเริ่มต้นงานการแสดงในปี 2005 จากบทเล็กๆในซีรียส์ I am Sam ที่เขาแสดงคู่กับปาร์คมินยอง และ T.O.P วงบิ๊กแบง จนกระทั่งเขาแจ้งเกิดจากบทบาทของกูจุนเพียว คุณชายผมหยักศกจอมหยิ่ง ลูกชายมหาเศรษฐีพันล้าน ในซีรียส์ รักฉบับใหม่หัวใจ4 ดวง (Boys Over Flowers) เขาประสบความสำเร็จในการเป็นนักแสดงและได้ขยายของเขตของการแสดงของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Gangnam Blues ซึ่งบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องแสดงทั้งอารมณ์ที่หนักหน่วงและมีการต้องแสดงฉากแอ๊คชั่นที่รุนแรง

คิมแรวอน รับบท ยองกี

“อนาคตของคนเป็นมาเฟีย อยู่ที่ว่า นายของเขาคือใคร” – ยองกี

หลังจากที่เขาพลัดพรากจากจองแด ยองกีก็ได้เริ่มใช้ชีวิตเป็นมาเฟีย เขาไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตที่ยากจนเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาได้เลื่อนตำแหน่งจนขึ้นสูงภายในแก๊งค์ และกลายเป็นมือขวาของลูกพี่ใหญ่ แต่เมื่อเขาได้กลับมาพบกับจองแดอีกครั้งในอีกสามปีให้หลัง พวกเขากลับต้องกลายมาเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน

นักแสดง : คิมแรวอน คืนจอ พร้อมด้วยความทะเยอทะยาน เช่นเดียวกับตัวละครของเขา! 

คิมแรวอน เป็นนักแสดงที่มีผลงานการแสดงทั้งซีีรียส์ และภาพยนตร์ โดยเขาผ่านการแสดงในผลงานแนวโรแมนติค คอมมาดี้, ดราม่า และแนวแก๊งค์สเตอร์มาแล้ว เป็นเวลา 8 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่เขาแสดงในหนังแนวแอ๊คชั่น แก๊งค์สเตอร์เรื่องล่าสุดของเขาอย่างSunflower โดยในการรับบทยองกี เขาต้องลดน้ำหนักตัวเองถึง 15 กิโลกรัม คิมแรวอน ได้ใช้ร่างกายของเขาในการสื่อถึงอันตรายจากตัวละครตัวนี้ ในฐานะของตัวละครที่มุทะลุ และพร้อมที่จะหักหลังคนอื่นได้เสมอ

Continue Reading
You may also like...
Click to comment

Leave a Reply

More in KOREA

Hot Tag

Trending

Follow me on Twitter

To Top