[สรุป] ‘ริวอิจิ คาวามูระ’ นักร้องนำ ‘Luna Sea’ ร่วมกับ ‘ป๊อด-โมเดิร์นด็อก’ ผนึก BSO ในคอนฯการกุศล ‘Ryuichi Kawamura Exclusive One Night Only Charity Concert in Bangkok’ (2011-05-01)

30 เมษายน 2554 เวลา 19.00 น. ณ พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน ริวอิจิ คาวามูระ ร็อกตัวพ่อจากแดนอาทิตย์อุทัย  นักร้องนำวงลูน่าซี (Luna Sea)  พลิกโฉมการร้องจากแนวร็อกไปสู่แนวบัลลาด (Ballad)   ร่วมกับอลังการดนตรีสุดคลาสสิคของวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพฯ  หรือ  บางกอก ซิมโฟนี ออร์เคสตร้า (BSO)  จำนวน 60 ชิ้น โดยการควบคุมวงของ อาจารย์วานิช โปตะวนิช พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ ป๊อด-โมเดิร์นด็อก  ร็อคตัวพ่อเมืองไทย

เปิดเวทีด้วยศิลปินญี่ปุ่นสาวสวย เลย์ (LAY) แขกรับเชิญของริวอิจิ ที่มาขับร้อง 2 เพลงรวด ‘Okoniiri’ และ ‘Kono Ai De Aruyouni’ เป็นการอุ่นเครื่องผู้ชม ก่อนที่เปิดตัว ริวอิจิ คาวามูระ พระเอกของงาน ในชุดสูทขาวราวกับเจ้าชายท่ามกลางหมู่ดาวเป็นแบคค์กราว มาพร้อมโชว์พลังเสียงในเพลง ‘Shin Ai’ และ ‘I Love You’ ซิงเกิ้ลจากผลงานเดี่ยวของเค้า พร้อมการบรรเลงดนตรีจากบางกอก ซิมโฟนี ออร์เคสตร้า ก่อนที่จะทักทายแนะนำตัวกันเล็กน้อย แล้วต่อด้วยเพลงที่ต้องใช้พลังเสียงสูงมากอย่าง ‘AMAPOLA’ และ ‘Shizukana Yoruwa Futaride Iyou’ ซึ่งทุกครั้งที่ร้องเพลงจบในแต่ละเพลง ก็ได้รับแต่เสียงปรบมือชื่นชม

มาถึงอีกช่วงสำคัญของคอนเสิร์ต เมื่อ ริวอิจิ ทำการร้องเพลงโดยไม่ใช้ไมค์ ไม่ใช้ลำโพง และไม่ใช่ออเคสตร้า แต่ใช้พลังเสียงร้องล้วนๆ ในเพลงดังของเขา ‘Love is’ ทั้งฮอลล์เงียบกริบ มีเพียงเสียงกีต้าร์โปร่งเบาๆให้พอจับจังหวะได้ ริวอิจิ ค่อยๆร้องเพลงดังขึ้นๆ จนดังไปทั่วถึงทั้งฮอลล์ และจบด้วยเสียงปรบมือดังสนั่นจากผู้ชม ก่อนที่จะต่อด้วยอีกหนึ่งเพลงดังในโซโล่ของเค้าอย่าง ‘Glass’ ที่เรียกเสียงฮ์กรี้ดต้อนรับเพลงนี้มาตั้งแต่ขึ้นอินโทร ตามด้วยไฮไลท์สำคัญคือการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพลง Magic Beams (แสงเดือน) มาขับร้องในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ โดนเจ้าตัวก็บอกก่อนร้องว่านับเป็นเกียรติอยากมากที่ได้มีโอกาศขับร้องเพลงนี้ ต่อด้วย ‘I For U’ ซาวน์แทรคยอดฮิตจากละครเรื่องดัง Precious Time เพลงโปรดตลอดกาลของใครหลายคน เรียกได้ว่ามีเสียงเชียร์กันตั้งแต่ที่ริวดิจิบอกว่าจะร้องเพลงนี้เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอน ริวอิจิก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ใช้ทั้งพลังและท่าทางเล่นเอาทุกคนต้องตกหลุมรักเพลงนี้อีกครั้ง

ซาบซึ้งกันต่อด้วยอีกผลงานดีๆอย่าง ‘Once Again’ และเพลงที่คอออเคสตร้ารู้จักกันดีอย่าง ‘Time to Say Good-Bye’ ไปจนถึงเพลงสากลสุดเก๋าอย่าง ‘My Way’  ก่อนที่จะถึงคิวพี่ป๊อด-โมเดิร์นด็อก  ร็อคตัวพ่อเมืองไทย ที่ออกมาจัดเต็มกันตั้งแต่เพลงแรก ‘บุษบา’ เอาเพลงร๊อคโยกหัวมันส์มาประสานเข้ากับวงดนตรีออเครสต้าได้ลงตัว เรียกร่วมอารมณ์จากคนดูได้ทั้งฮอลล์ ตามด้วยเพลง ‘ขอให้ผม’ ที่พี่ป๊อด ลงมาร้องเพลงกันถึงหน้าเวทีด้านล่าง แล้วยังอุตส่าห์ยิงมุกว่าตนเองก็อยากจะร้องแบบไม่ใช้ไมค์นะ แต่หลังจากลองร้องไป 2-3 ประโยคก็กลับมาร้องไมค์เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ทำให้บรรยากาศขาดตอนแต่อย่างใด ต่อด้วยเพลงจากอัลบั้มพิเศษ บอย-ป๊อด ในเพลง ‘ช่วงที่ดีที่สุด’ ก่อนที่จะปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยการแจมครั้งพิเศษในบทเพลง “ดอกไม้ของน้ำใจ” ร่วมกันระหว่าง ริวอิจิ และ ป๊อด ท่ามกลางวีทีอาร์ที่ชาวไทยแสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ภาพซึ้งๆที่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งก็เป็นเหตุผลของคอนเสิร์ตการกุศลครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่สุดประทับใจระดับประเทศในปีนี้ ที่ไม่สมควรพลาดด้วยประการทั้งปวง