Connect with us

PINGBOOK

THAI

[ข้อมูล] ‘รัก 7 ปี ดี 7 หน’ ภาพยนตร์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง 26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ (2012-07-05)

ภาพยนตร์ในวาระครบรอบ 7 ปี ของค่ายหนัง G T H




 กำกับการแสดงโดยผู้กำกับ 3 รุ่น 3 สไตล์ ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ GTH


เ ก้ ง – จิ ระ | ปิ๊ ง – อ ดิ ส ร ณ์ | ก อ ล์ ฟ – ป วี ณ




7 บทบาท 7 นักแสดง



เ ก้ า | ปั น ปั น| ซั น นี่ | ค ริ ส | นิ ช คุ ณ | สู่ ข วั ญ | โ อ ป อ ล์



 



เตรียมพบกับภาพยนตร์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง


26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์



 


รัก 7 ปี ดี 7 หน


โปรเจกต์เฉลิมฉลองวาระครบรอบปีที่ 7 ของค่ายหนัง GTH เจ้าของเครดิตภาพยนตร์ไทยขวัญใจมหาชนอย่าง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ, กวนมึนโฮ, ATM เออรัก เอ่อเร่อ, ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น, Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และ เพื่อนสนิท


ในปี 2555 นี้ GTH ขอเสนอภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจเรื่องใหม่โดยผู้กำกับ 3 รุ่น 3 สไตล์ที่จะมาถ่ายทอดความหมายของคำว่า “Love & Life” ในแต่ละช่วงวัย


ว่ากันว่าชีวิตคนเรานั้นโคจรไปด้วยการกำกับของดวงดาว โดยมีดาวมฤตยูซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงคอยกำหนด ดาวมฤตยูนี้จะย้ายเปลี่ยนราศีไปในทุก 7 ปี สังเกตุกันดีๆ จะเห็นว่า ชีวิตคนเราจึงพบปะความพลิกผันครั้งใหญ่ในทุก 7 ปีเช่นกัน จากวัยเด็กเมื่อ 7 ขวบสู่ 14 เมื่อแรกรุ่น ก้าวขึ้นเป็นหนุ่มสาวย่าง 21 กระโดดเข้าสู่โลกของการงานและสร้างครอบครัวเมื่อครบ 28 มีลูกตอน 35 เจ็บป่วยยามใกล้ 42 พลัดพรากและจากลาในช่วงอายุ 49, 56, 63 หลังจากนั้นคือการขยับเข้าใกล้ความตายในปั้นปลาย


และเมื่อชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง


แล้วความรักจะคงอยู่ได้อย่างไร











ในวาระรอบ 7 ปีที่ 1 ของ GTH ต่อไปนี้คือ 3 เรื่องราวรักในแต่ละรอบ 7 ปีที่เราอยากนำผู้ชมก้าวเข้าไปสำรวจมัน


เริ่มจาก “14” โดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา (ห้าแพร่ง) ความรักของ ป่วน (จิรายุ ละอองมณี) และ มิลค์ (สุทัตตา อุดมศิลป์) ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ฉับพลันที่ป่วนตัดสินใจเปลี่ยน Status ใน Facebook เป็น ‘In Relationship’ ป่วนโพสต์คลิปเผยแพร่ความรักของตัวเองลงใน Youtube อย่างละเอียดยิบด้วยความภาคภูมิใจและเนิร์ดแฟน หลากหลายคอมเม้นต์ ความอยากรู้อยากเห็น และยอด Views ที่พุ่งอย่างไม่หยุดยั้ง ดึงป่วนให้ถลำลึกลงไปในโลกของฟีดแบ็คจากคนที่เขาไม่รู้จัก ส่วนคนที่เขารักนั้น ยิ่งนานวันเธอก็ยิ่งมีค่าน้อยกว่ายอดคลิก Like ในหน้า Wall Facebook ของเขา


ต่อด้วย “21/28” ผลงานของ อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม (รถไฟฟ้ามาหานะเธอ) เรื่องราวรักนอกจอของอดีตสองซุปเปอร์สตาร์ที่เคยมีหนังร้อยล้านร่วมกันเมื่อ 7 ปีก่อน ปัจจุบันฝ่ายหญิง แหม่ม (คริส หอวัง)ในวัย 28 ยังกระเสือกกระสนหาทางกลับไปยืนแป้นนางเอกอีกครั้ง โอกาสมาถึงเมื่อสตูดิโอเจ้าของหนังประกาศสร้างภาคสอง แต่นั่นหมายถึงต้องได้พระนางคู่เก่าคืนจอ ปัญหาอยู่ที่ จอน (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) นั้นสาปส่งวงการหนีไปเป็นผู้ดูแลสัตว์น้ำใน Siam Ocean World ไปแล้ว แหม่มจึงต้องบากหน้าไปตื๊อแฟนเก่าทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่าย ‘ดังแล้วทิ้ง’ เพียงเพื่อจะพบว่าอดีตพระเอกเจ้าของกล้ามซิคแพ็คได้แปรสภาพเป็นไอ้อ้วนหนัก 80 ที่เกลียดเธออย่างกับขี้ไปซะแล้ว



 


และเรื่องสุดท้าย “42.195” งานกำกับชิ้นแรกในรอบ 7 ปีของผู้กำกับมือรางวัล จิระ มะลิกุล (15 ค่ำเดือน 11, มหา’ลัยเหมืองแร่) ซึ่งจับเอาเรื่องราวของชีวิตและการวิ่งมาราธอนมาเปรียบล้อกัน เรื่องราวของ หล่อน (สู่ขวัญ บูลกุล) ผู้ประกาศข่าวสาววัย 40 ที่กำลังหลงแผนที่ชีวิต หล่อนประสบกับความสูญเสียใหญ่หลวงและไม่รู้จะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไร จนกระทั่งหล่อนได้พบกับ เขา (นิชคุณ หรเวชกุล) นักวิ่งหนุ่มที่ชวนให้หล่อนเข้าแข่งขันมาราธอน ลมหายใจของหล่อนก็เหมือนจะกลับมามีความหมายอีกครั้ง


บนเส้นทางชีวิต อายุก็ไม่ต่างอะไรกับหลักกิโลเมตรบอกระยะทางในการแข่งขัน


14 กิโลเมตรแรก แห่งความสดชื่น กระฉับกระเฉง มุ่งมั่นจะเอาชนะ


21/28 กิโลเมตรถัดมา เมื่อถึงครึ่งระยะทาง จะวิ่งกลับหรือไปต่อ เราต้องตัดสินใจ


42.195 จุดหมายปลายทางแสนไกล ขอแค่มีใครสักคนวิ่งอยู่เคียงข้างเรา


หลายครั้งที่คนเราต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวสุขก็พลิกเป็นเศร้า เหงาเปลี่ยนเป็นอบอุ่น นี่คือหนังที่พยายามให้กำลังใจกับคนดูทุกคนว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเส้นทางมาราธอนชีวิตของคุณ


ขอให้คุณสั่งหัวใจตัวเอง “วิ่งต่อไป”


……….



รัก 7 ปี ดี 7 หน



3 เรื่องรัก / 3 ผู้กำกับ / ฉลอง 7 ปี GTH



14


ภาพยนตร์โดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา


นำแสดงโดย จิรายุ ละอองมณี, สุทัตตา อุดมศิลป์


กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา



รัก 7 ปี ดี 7หน ทำให้ผมรู้ว่าหนังรักนี่มันมีเสน่ห์จริงๆ


หากย้อนกลับไปทุก 7 ปีของชีวิตผมแล้ว พบว่าการทำหนังครั้งแรกของผมจนถึงเรื่องล่าสุด เติบโตขึ้นเยอะ ข้อผิดพลาดทำให้พัฒนาขึ้น ระยะเวลาที่ผ่านทุก 7 ปี สอนให้เรารู้ว่าเราโตขึ้นเป็นคนแบบไหน ทำให้รู้จักตัวเองขึ้นเรื่อยๆ และเรื่องนี้เป็นหนังรักเรื่องแรกที่ได้กำกับ ก่อนหน้านี้เคยทำแต่หนังผี ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าการกำกับ มันต่างกันมาก เพราะหนังผีทุกอย่างมันถูกกำหนดเอาไว้ ว่าต้องเดินสามเก้าแล้วหันไปเจอเหตุการณ์ ซึ่งการแสดงแบบด้นสดมันจะน้อยมาก แต่พอมาทำหนังรัก ทุกอย่างมันคือสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ซึ่งเก้ากับปันๆทำได้ดี ถ้าเราถ่ายไปเกิดรู้สึกเขินอายแทนเขาเนี่ย แสดงว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นบ้างแล้ว ซึ่งหาไม่ได้ในหนังผี แม้ฉากกุ๊กกิ๊กนิดเดียว หันไปมองคนรอบข้างในกอง ทีมงานยังยิ้มแทนตัวละคร แสดงว่าการแสดงมันได้ผลจริงๆ ส่งพลังถึงเราได้ ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ของหนังรัก โดยใช้ไอเดียจากพวกโซเชียล เนตเวิร์ค ทั้งหลายมาเป็นแกนเรื่อง โดยมีทั้งส่วนดีและส่วนเสีย ที่คนรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้ที่จะใช้มันให้เป็น



ภูมิใจได้ทำหนังเรื่องนี้ หนังที่ให้พลังมากกว่ารัก


ที่มาของโปรเจ็ค รัก 7 ปี ดี 7 หน เป็นโปรเจ็คฉลอง 7 ปี จีทีเอช พี่เก้งต้องการทำหนังรักในอีกรูปแบบนึง ที่พูดประเด็นลงลึกกว่าที่ จีทีเอชเคยทำหนังรักมา ที่ผ่านมาเราทำหนังรักวัยมัธยม คนทำงานหลากหลายรูปแบบ แต่เรื่องนี้พูดถึงการใช้ชีวิต มันไม่ใช่แค่เราไปดูชีวิตคนๆ หนึ่ง แต่มันมากกว่านั้น ทั้งสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้เราเกิดแนวคิดใหม่ๆ ที่จะใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้า


ตอน “14” ที่ผมกำกับ เป็นเรื่องราวของ ป่วน (เก้า-จิรายุ) เด็กผู้ชายที่ใช้เทคโนโลยีรอบตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง ทั้งโซเชียลเน็คเวิร์ค, โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่สามารถทำอะไรได้หลายรูปแบบ ทั้งถ่ายรูป คลิปวีดีโอ เพื่อโพสลงยูทูป ป่วน ไปแอบชอบ มิล์ค (ปัน ปัน-สุทัตตา) รุ่นน้องจนวันนึงได้คบกัน หนังเล่าผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทุกอย่างว่าชีวิตคนเราทุกวันนี้ไม่ได้คุยกันปกติอย่างเดียว ยังคุยผ่านหน้า เฟซบุ๊ค, อินสตาแกรม ซึ่งบางครั้งการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คมากเกินไป มันได้ส่งผลและเกิดเรื่องราวบางอย่าง หนังเรื่องนี้ ผมดีใจมากที่ได้ เก้า กับ ปัน ปัน มาแสดงคู่กัน 2 คนนี้เป็นเคมีที่เข้ากันมาก เค้าทั้งคู่สามารถเล่นด้วยกันแล้วมันส่งพลังอะไรบางอย่างมาถึงตัวผม เก้า กับ ปัน ปัน เป็นนักแสดงที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึก อารมณ์ได้มากกว่าสิ่งที่ผมต้องการครับ


เก้า-จิรายุ ละอองมณี


อิทธิพลของเลข 7


นักฟุตบอลคนแรกที่ผมชอบ ชื่อ เชฟ เชนโก้ อยู่ทีม เอซีมิลาน ตอนนั้นเขาเล่นท็อปฟอร์มมาก เพิ่งย้ายมาใหม่ ปีแรกก็ยิงได้เลย ก็เลยปลื้มว่าเขาเก่งมาก ซึ่งเลข 7 เป็นเลขเบอร์เสื้อของเขา และเป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้ผมชอบดูฟุตบอลมาจนถึงทุกวันนี้



ทุก 7 ปี มีการเปลี่ยนแปลง


ตอน 7 ขวบ ผมได้เล่นละครเรื่องผีขี้เหงา เล่นเป็นเด็กผี เป็นละครเรื่องแรกที่เป็นจุดเปลี่ยนให้ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น เริ่มมีคนจำได้ มีเพื่อนล้อ เริ่มเปลี่ยนความคิดที่มีต่อโลก เริ่มมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ตอน 14 จำได้ว่าเริ่มมีป๊อบปี้เลิฟ และเป็นช่วงอายุที่ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เพราะได้เล่นหนัง 5 แพร่ง ทำให้คนเรียกว่าเก้าจิรายุ ไม่ใช่น้องเก้า การเล่นหนังทำให้ได้ประสบการณ์ดีๆ และเป็นช่วงเวลาดีๆที่อยู่ในอีกความทรงจำ



รัก 7 ปี ดี 7 หน หนังที่ผมรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ ภูมิใจที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้


ผมเคยเล่นหนังกับพี่กอล์ฟมาแล้ว ใน 5 แพร่ง ตอน “หลาวชะโอน” พี่กอล์ฟเป็นคนที่ละเอียดมาก เป็นผู้กำกับที่ตั้งใจที่จะทำให้สิ่งที่จะออกมาในหนังมันมีความหมายทั้งหมด และนี่ล่ะครับคือสิ่งที่ผมประทับใจในตัวพี่กอล์ฟ เพราะเวลาที่เราได้ทำสิ่งดีที่สุด เวลาไปนั่งดูในโรงหนังแล้วเราจะไม่นั่งเสียดาย พี่กอล์ฟทำให้ผมรู้สึกภูมิใจกับหนังเวลาที่ได้ไปนั่งดู หนังเรื่องนี้ทำให้ผมถนัดเรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์คมากขึ้น จากที่ไม่ถนัดเลย ผมได้ไปเรียนพิมพ์ดีดเพื่อฝึกพิมพ์ข้อความให้คล่อง ป่วน กับผม มีความคล้ายกัน แต่ป่วน เก่งกว่าผมเยอะครับในเรื่องเครื่องมือสื่อสาร



ปันปัน นางเอกในดวงใจ


ปันปัน เป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากครับ มีความสามารถในด้านการแสดงมาก เวลาเข้าฉากด้วยกัน รู้สึกว่าเขาเล่นดีจัง อยากจะตามเขาให้ทัน เวลาที่เราตั้งใจเล่น ช่วยส่งบทให้กัน เราทั้งคู่เลยทำมันให้ออกมาดี ตามที่ผู้กำกับต้องการ แต่กว่าจะเข้ากันได้ เราก็ต้องไปเวิร์คช้อปกับครูเงาะ ครูเงาะจะให้เราคุยกั ทวิตเตอร์คุยกัน กินข้าวกลางวันด้วยกัน พอมาเข้าฉากด้วยกันอีกครั้ง ผู้กำกับพอใจเลยครับ



 


ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์


อิทธิพลของเลข 7


เลข 7 เป็นเลขที่หนูชอบที่สุด เพราะรู้สึกว่าอะไรๆในโลกนี้ก็ 7 ไปหมด เช่นสายรุ้งก็มี 7 สี หนึ่งอาทิตย์ก็มี 7 วัน เวลาหนูจับฉลากขึ้นมาทีไรก็จะได้เป็นเลข 7 ทุกครั้ง เวลาใครให้เลือกตัวเลข หนูก็ชอบเลือกเลขเบอร์ 7 รู้สึกผูกพันกับตัวเลขนี้เป็นพิเศษ ถือเป็นเลขนำโชคในชีวิต



ทุก 7 ปี มีการเปลี่ยนแปลง


ช่วงที่เห็นได้ชัด คือตอนอายุ 13 จะเข้า 14 ชีวิตเปลี่ยนไป เพราะได้เล่นหนังเรื่องลัดดาแลนด์ ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้จัก เดินห้างก็ไม่มีใครมอง แต่ตอนนี้ทำอะไรก็มีคนรู้ มีแต่คนมอง ก็ต้องปรับตัวด้วยการทำใจ และระวังตัวมากขึ้น คิดให้ดีเวลาจะทำอะไร ในอนาคต ตอนอายุ 21 ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร


จีทีเอช บ้านหลังแรกอบอุ่น ตัวละครสอนใจ


หนูรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ตัวละครมิลค์ ได้สอนอะไรบางอย่างให้กับหนู ตอนเล่น ลัดดาแลนด์ ตัวละครสอนให้หนู รักครอบครัว เข้าใจพ่อแม่มากขึ้น แต่เรื่องนี้ มิลค์ สอนให้หนูรู้ว่า โลกของโซเชียลเน็ตเวิร์ค เราไม่สามารถควบคุมได้ ชีวิตจริงของหนู ติดโซเชียลเน็ตเวิร์คมาก จะคุยผ่านเครื่องมือสื่อสารมากกว่าหันหน้ามาคุยกัน ตอนนี้หนู หันมาคุยกับคนอื่นมากขึ้น


ผู้กำกับใจดี นักแสดงเข้าขา ทำให้ได้มาซึ่งงานแสดงที่ดี


พี่กอล์ฟเป็นผู้กำกับที่ใจดี และเก่งด้านโซเชียลเน็ตเวิร์คมากค่ะ พี่กอล์ฟทำงานละเอียด เข้าใจนักแสดง ใจเย็น เวลาที่หนูเล่นไม่ได้ พี่กอล์ฟจะให้ไปพักก่อน เวลาที่หนูเขินไม่กล้าเล่น พี่กอล์ฟจะส่งหนูกับเก้าไปเวิร์คช้อปกับครูเงาะ ซึ่งหลังจากที่เราทำความรู้จักกันแล้ว สนิทกันแล้ว หนูรู้เลยว่าเรากล้าเล่นมากขึ้น การทำงานสนุกขึ้น


เก้า เป็นนักแสดงที่ร่วมงานด้วยแล้วไม่กดดัน เวลาที่หนูเล่นไม่ได้เก้าจะให้กำลังใจ จะคอยบอกไลน์กล้อง แม้แต่ฉากเล็กๆ น้อยๆ เก้าจะไม่ปล่อยผ่าน สอนเรื่องมุมกล้อง ฉากเดินในห้าง จะเตือนหนูว่า ตาอย่าหลุดโฟกัส อย่าเดินหลุดกล้อง เก้า ทำให้หนูผ่อนคลายเวลาเข้าฉากด้วย เก้าเป็นนักแสดงที่มืออาชีพจริงๆ


21/28


ภาพยนตร์โดย อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม


นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, คริส หอวัง


ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม



ทุ่มเท ทุ่มเวลา เพื่อให้ได้มาซึ่งบทดีๆ


บทหนังเรื่องนี้ผมใช้เวลาเขียน 1ปี ระหว่างนั้นต้องเริ่มหานักแสดง เพราะพระเอกในเรื่องต้องเตรียมตัวหลายอย่าง เพิ่มน้ำหนัก ลดความอ้วน ว่ายน้ำ ดำน้ำ ฯลฯ นักแสดงคนเดียวที่ผมนึกถึงคือ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ซันนี่คือคนเดียวเท่า ที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้กับผมได้ มันเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับนักแสดง



ซันนี่คนนี้ใช่เลยพระเอกของผม


ทันทีที่ผมได้คุยกับซันนี่ ผมถึงได้รู้ว่า ซันนี่ ว่ายน้ำไม่เป็น กลัวน้ำ แต่ซันนี่ บอกว่าผม “พี่ครับผมเล่น บทมันท้าทายมาก ผมยอมที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหนังเรื่องนี้ ผมภูมิใจที่ได้เล่นหนังฉลอง 7ปี จีทีเอช” ซันนี่ ยอมเพิ่มน้ำหนัก10 ก.ก. จาก 65 เป็น 75 ก.ก. ยอมไปเรียนว่ายน้ำ ดำน้ำ เล่นกล้าม เพื่อหนังเรื่องนี้


เมื่อได้ซันนี่ แล้ว นางเอกที่ผมคิดถึงคือ คริส หอวัง เราเคยร่วมงานกันมาแล้วใน รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ หนังรักเรื่องนี้ ต้องการความลึกของตัวละคร เมื่อพระเอกคือซันนี่ นางเอกที่วัยใกล้เคียงกัน และฝีมือการแสดงดี คือคริส หอวังเท่านั้นที่ผมรู้สึกว่า เคมีของ 2 คนนี้เข้ากัน และเมื่อทั้งคู่ได้มาเข้าฉากในหนังของผม สิ่งที่ทั้ง 2 คนทำให้ผมมันเกินความคาดหมาย ทั้งคู่ได้สร้างโลก สร้างตัวละครของเขาเองขึ้นมา มันดีกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก



มหัศจรรย์เลข 7 ในชีวิตผม


รัก 7 ปี ดี 7 หน นอกจากเป็นหนังฉลอง 7 ปี จีทีเอชแล้ว สถานที่ถ่ายทำหลักของหนังเรื่องนี้ สยามโอเชียลเวิลด์ ก็เปิดมาครบ 7 ปี รวมทั้งซันนี่ยังยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง 7 อย่าง ทั้งเพิ่มน้ำหนัก ลดความอ้วน เล่นฟิตเนส เพาะกล้าม เรียนว่ายน้ำ ดำน้ำ เต้นบอยแบนด์ และซันนี่เป็นดาราที่อยู่ในจีเอช ครบ 7 ปีเหมือนกัน และในชีวิตส่วนตัว เลข 7 ก็เข้ามาเกี่ยวพันกับชีวิตผมด้วย ผมชอบนักบอลใส่เสื้อเบอร์ 7 ชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีพยัญชนะ 7 ตัวพอดี เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตผม


 


 


ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์



อิทธิพลของเลข 7


เป็นเลขที่สวยดี ตั้งแต่เด็กๆชอบเลข 7 เพราะเวลาดูการ์ตูน หรือนักบอลเก่งๆชอบใส่เสื้อเลข 7 เลยคิดว่าใครใส่เบอร์ 7 แล้วเท่ ก็เลยมีความผูกพันกับเลข 7 แต่ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์เลข 7 นะครับ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำมากกว่า จะเลขเท่าไหร่ก็เกิดเรื่องได้


ทุก 7 ปี มีการเปลี่ยนแปลง


จริงๆทฤษฎีนี้ฟังดูค่อนข้างรู้สึกได้ เหมือนเป็นช่วงที่เราเรียนช่วง 1-7 ปีพอดี พอ 14 ก็มาเปลี่ยนไปเจอเพื่อนใหม่ๆ มันก็ดูเป็นทฤษฎีที่น่าจะจริงอยู่ แต่ตัวผมเองไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง รู้แค่ว่าเรามีประสบการณ์มากขึ้นกว่าเดิม ได้เจอเรื่องราวมากขึ้น พอนับๆดู ผมเล่นหนังเรื่องแรกของ จีทีเอช พอนับมาปีนี้ก็ครบ 7 ปีพอดีเลยครับ


5 ปีที่รอคอย กับการกลับมาอีกครั้งในหนังฉลอง 7 ปี จีทีเอช


ผมห่างหายจากหนังไป 5 ปี เรื่องสุดท้ายคือ สายลับจับบ้านเล็ก ที่กลับมาเล่นเรื่องนี้ เพราะผมรู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทาย วันแรกที่พี่ปิ๊ง บอกว่า เราต้องไปเพิ่มน้ำหนัก ลดน้ำหนักว่ายน้ำ ดำน้ำ ใจแรกเลยผมคิดว่า ไม่เอาดีกว่า เราแก่แล้ว กลัวลดไม่ได้ และผมกลัวน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น แต่พอพี่ปิ๊งเล่าเรื่องให้ฟัง ผมไม่กลัวแล้ว ผมอยากเล่น ผมอยากเล่นหนังเรื่องนี้ทั้งที่ผมยังกลัวอยู่


อดทน พยายาม ทุ่มเท เพื่องานที่รักที่สุดในชีวิต


ผมเริ่มต้นงานนี้ด้วยสิ่งที่ง่ายที่สุด กินให้อ้วน กินทุกอย่างที่อ้วน น้ำหนักก่อนเล่นหนัง 64 ก.ก. ผมต้องเพิ่มให้เป็น 76 ก.ก. ระหว่างเพิ่มน้ำหนักผมไปเรียนว่ายน้ำ จากนั้นเข้าคอร์สดำน้ำ 2 วัน ลงบ่อจริง 10 ครั้ง ผมต้องแบกน้ำหนักอ้วนไว้ประมาณ 6 เดือน จากนั้นต้องรีบลดน้ำหนัก และเพาะกล้าม ต้องเข้าฟิตเนส สิ่งต่างๆ ที่ผมทำในหนังเรื่องนี้ ในชีวิตจริงของผมไม่มีเหตุผลที่จำเป็นจะต้องทำ แต่เพราะหนังทำให้ผมมีข้ออ้างกับตัวเองว่าเราต้องทำให้ได้ และผมก็ทำมันได้ ภูมิใจมากครับทีได้มาเล่นหนังเรื่องนี้


คริส หอวัง นางเอกที่ทำให้ผมทึ่ง


ตอนแรกผมกับคริส ยังไม่สนิทกันเท่าไร แต่ด้วยอายุที่ใกล้เคียงกัน และในหนังเราต้องเล่นเป็นแฟนกัน คริส มีความเป็นมืออาชีพมาก เขาช่วยส่งพลังมาถึงผม เวลาเข้าฉากซีนทะเลาะกัน บางครั้งผมเผลอผลักเขาแรงๆ สงสารเลยครับ เพราะเราเพิ่งเข้าฟิตเนส เล่นกล้ามมา ทำให้ไม่รู้ว่าแรงเราเยอะ การกลับมาเล่นหนังเรื่องนี้ ทำให้ผมรู้ว่า ผมรักงานแสดง พอเราเจอสิ่งที่ใช่ เราจะอยากทำแบบสุดๆ เหมือนไฟเรามอดไปช่วงหนึ่ง มันท้อเหมือนกับว่าสิ่งที่เราอยากทำมันยังไม่มี แต่พอเจอสิ่งต้องการ เราอยากทำมันอย่างเต็มที่



 


 


คริส หอวัง



อิทธิพลของเลข 7


ที่เห็นได้ชัดคือการได้มาเล่นหนังเรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หน สำหรับคริสว่าเป็นหนัง 3 เรื่อง 3 ผู้กำกับ 3 ช่วงอายุ ที่พยายามจะบอกอะไรในมุมต่างๆกันคริสไม่เคยเล่นหนังที่เข้มข้นขนาดนี้ ทุกรีแอค ทุกซีนของการแสดง มีความหมายหมด การได้มาแสดงเรื่องนี้ ทำให้คริสรู้สึกภูมิใจมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการฉลอง 7 ปีจีทีเอช บ้านหลังที่อบอุ่นที่สุด



ทุก 7 ปี มีการเปลี่ยนแปลง


คริสเพิ่งนั่งนึกเหมือนกันว่า ทุก 7 ปี ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกัน ตอนอายุ 14 คริสโดนส่งไปเรียนเมืองนอก พออายุ 21 คริสเรียนจบกลับมาอยู่เมืองไทย เป็นครูสอนเต้น พออายุ 28 คริสก็มีโอกาสได้เล่นหนังรถไฟฟ้ามาหานะเธอ ซึ่งทำให้คริสเป็นที่รู้จักมากขึ้น ได้ต่อยอดทำงานแปลกใหม่อีกมากมาย ในอนาคตก็รอลุ้นอยู่เหมือนกันค่ะว่าชีวิตคริสตอนอายุ 35 จะเป็นอย่างไร



ภูมิใจเล่นหนังฉลอง 7 ปี จีทีเอช


คริส ภูมิใจและดีใจมากค่ะ ที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ คริส เคยร่วมงานกับพี่ปิ๊ง มาแล้วใน รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ พี่ปิ๊งเป็นผู้กำกับที่ละเอียดมาก และคริส ก็เป็นนักแสดงที่ขี้สงสัยมากเช่นกัน อาจเป็นเพราะคริสไม่ได้เก่งมาก ขนาดดีไซน์ตัวละครได้อย่างชัดเจน พอถามพี่ปิ๊ง พี่ปิ๊งจะไขข้อสงสัยเราได้หมด ใจดี ทำให้เราชอบทำงานด้วย และอยากจะทำงานกับพี่ปิ๊งไปอีกหลายๆ เรื่องค่ะ



รู้จักกันมา 7 ปี ครั้งนี้เพิ่งได้ร่วมงาน


คริสเคยเจอซันนี่เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่สนิทกัน พอมาเล่นหนังเรื่องนี้ด้วยกัน ทำให้ได้คุยกันเยอะ ซันนี่เป็นนักแสดงที่ดีมาก เล่นเก่งมาก บางซีนเค้าไม่ต้องพูดอะไรเลย แค่ยืนมองคริส แต่ส่งความรู้สึกมาให้เราได้เยอะมาก บางซีนแค่มองหน้า ไม่ต้องพูดอะไร เราน้ำตาไหลได้เลย



ยิ่งร่วมงานยิ่งผูกพัน หนังรวมพลัง สุดยอดทีมเวิร์ค


ตัวละครแหม่มในเรื่องนี้ ต่างจาก เหม่ยลี่ ในรถไฟฟ้า..มาหานะเธอ ตัวละครแหม่ม เล่นยากมาก เพราะต่างจากตัวคริสเลย แหม่มอยากเป็นดาราดัง มีความทะเยอทะยานสูง แต่ไม่ใช่คนไม่น่ารัก ตัวละครมีความเข้มข้น เราต้องใส่ความรู้สึกลงไปในตัวละครเยอะ ยิ่งพอเห็นสิ่งที่ซันนี่ ต้องทุ่มเทเพื่อหนังแล้ว มานั่งคิดว่า เราต้องเปลี่ยนแปลงทุ่มเทอะไรบ้าง เราแค่ย้อมผม เปลี่ยนสีผม เปลี่ยนลุค เลยคิดว่า ช่วงอายุ 28 ของเรา เรายังผอม เพื่อให้เข้ากับหนัง คริส เลยลดน้ำหนักเป็นเพื่อนซันนี่ไปเลยค่ะ คืออยากทุ่มเทบ้าง เพราะหนังเรื่องนี้ เราทำกันเป็นทีมเวิร์ค ซันนี่ คริส พี่ปิ๊ง ตากล้องพี่สีบาน ทีมงานทุกคน รวมถึงอีก 2 เรื่องของพี่เก้ง พี่กอล์ฟ มันคือการรวมพลังของทีมงาน จีทีเอชทุกคนเพื่อหนังเรื่องนี้ มันยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของคริสมากค่ะ


42.195


ภาพยนตร์โดย จิระ มะลิกุล


นำแสดงโดย สู่ขวัญ บูลกุล, นิชคุณ หรเวชกุล และ โอปอล์ปาณิสรา พิมพ์ปรุ


เก้ง-จิระ มะลิกุล



มาราธอน ปรัชญาการใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์


วาระที่จีทีเอชครบรอบ 7 ปี เราคิดกันว่าจะมีการรวมดาราดัง และมองว่าความรักกับเลข 7 น่าจะไปด้วยกันได้ผมได้อ่านหนังสือของคุณวานิช จรุงกิจอนันต์ ได้เขียนเกี่ยวกับเลข 7 ว่า ชีวิตคนเราจะเปลี่ยนแปลงทุก 7 ปี และฝรั่งยังเชื่อเรื่อง “7 Years itch” หรืออาถรรพ์เลข 7 และยังไปพ้องกับหลักโหราศาสตร์ ว่ากันว่าชีวิตคนเรานั้นโคจรไปด้วยการกำกับของดวงดาว โดยมีดาวมฤตยูซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นตัวกำหนด ดาวมฤตยูจะย้ายเปลี่ยนราศีไปทุก 7 ปี สังเกตุกันดีๆ จะเห็นว่าชีวิตคนเราจะพบความยิ่งใหญ่ในทุก 7 ปีเช่นกัน ปรัชญาของคนที่สร้างมนุษย์คนนึงขึ้นมาบนโลก เขาหวังว่ามนุษย์จะก้าวต่อไป เลยทำให้เท้าชี้ไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นไม่ว่าการ เปลี่ยนแปลงที่ 7 ปีไหน การก้าวต่อไปมันคือสิ่งสำคัญที่สุด การผ่านมันไปทุกช่วงวัย ไม่ว่าวัยไหนก็ต้องก้าวต่อไปข้างหน้า สุดท้ายสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการวิ่งมาราธอน คือปรัชญาในการใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ ที่สอนให้เราก้าวไปข้างหน้า เพื่อจะพบการเปลี่ยนแปลงในทุก 7 ฟุตถัดไป



42.195 จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ


ตอน 42.195 เป็นเรื่องราวของการเล่าถึงการส่งแรงบันดาลใจ เมื่อคนเราดำเนินชีวิตมาถึงอายุ 42 ปี บางคนอาจจะโชคดีมีชีวิตที่สุขใส ดำเนินชีวิตต่อไปอย่างราบรื่น แต่บางคนชีวิตก็อาจจะมีอุบัติเหตุเข้ามาบ้าง อาจจะมีสิ่งที่ทำให้แรงดลใจ ที่จะมีชีวิตอยู่มันน้อยลงไป เพราะช่วงอายุ 42 ผ่านช่วงวัยรุ่นมาค่อนข้างมากแล้ว และเหมือนกับอาจจะน้อยเกินไปที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ บางคนก็อาจจะปล่อยชีวิตให้มันกลายเป็นสารแขวนลอย การที่อยู่ๆก็ได้แรงบันดาลใจเข้ามา เป็นสิ่งที่น่ารักมากๆสำหรับคนๆหนึ่ง และในเรื่องนี้ การที่หนุ่มหน้าใสมีสิวหนุ่มเล็กน้อยบนหน้าผาก เดินมาสร้างแรงบันดาลใจต่อผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุ 42 ด้วยการสอนให้ลองวิ่งมาราธอนดูสิ ซึ่งบังเอิญสอดคล้องกับระยะทางการวิ่งมาราธอนที่อยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 42.195 พอดี ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเขาและเธอ



นิชคุณ-สู่ขวัญ ความมหัศจรรย์ในรอบ 7 ปี


หากให้พูดถึงคุณสู่ขวัญ ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ผมจะรู้สึกว่าผมได้ทำงานกับนักแสดงมืออาชีพคนหนึ่ง เพราะมีความเป็นธรรมชาติมาก และมีการเตรียมตัวที่ดีมาก เป็นการคอนเฟิร์มคำพูดที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น มันเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ ซึ่งมหัศจรรย์มาก สำหรับคนที่ไม่ชอบการวิ่งเลย แต่ได้พยายามอย่างสุดชีวิต จนสุดท้ายก็สามารถวิ่งได้ และชอบการวิ่งมาจนถึงทุกวันนี้ นับไปนับมา ตั้งแต่วันแรกที่ถ่ายหนัง รวมระยะทางที่คุณสู่ขวัญวิ่งก็น่าจะ 500 กว่ากิโลเมตร ส่วนนิชคุณก็เป็นอีกคนที่เซอร์ไพร์สมาก ตอนแรกที่คิดถึงเขา รู้สึกว่าจะเป็นไปได้ไง เพราะเขาเป็นถึงซูปเปอร์สตาร์ระดับเอเชีย แต่พอเจอน้องคุณ เขาเป็นเด็กที่น่ารักมาก นอบน้อมมีสัมมาคารวะ ถ้ามองตรงๆก็รู้สึกได้ว่าเป็นคนหน้าตาดี แต่พอมองผ่านเลนส์กล้อง มองผ่านมอนิเตอร์ สัมผัสได้เลยว่าน้องคนนี้มีเสน่ห์มากจริงๆ



นิชคุณ หรเวชกุล


อิทธิพลของเลข 7


สิ่งที่เกี่ยวพันกับเลข 7 ในชีวิตของคุณคือ ช่วงอายุในแต่ละ 7 ปี ก่อน 7 ขวบ คุณไม่สบายบ่อยมาก เข้าโรงพยาบาลบ่อย เพราะร่างกายอ่อนแอ พ่อก็เลยจับตีแบท ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลอีกเลย แข็งแรงขึ้นมาโดยทันใด พอ 7 ปีหลัง ตอน 14 ขวบ ย้ายจากนิวซีแลนด์ ไปอยู่อเมริกา คือเป็นจุดเริ่มต้น ที่ได้เจอเพื่อนเกาหลี ได้เจอวัฒนธรรมเกาหลี ทำให้คุณได้ไปเกาหลี และบวกไปอีก 7 ปี ตอนอายุ 21 คือตอนที่วงของคุณได้รางวัล นักร้องแห่งปีที่เกาหลี เป็นอะไรที่น่าคิดมากว่าทุกๆ 7 ปีของคนเรามีอะไรที่ก้าวเข้ามาและก้าวออกไป จะดีหรือร้ายมีหมด ถ้าคิดและนำสิ่งนั้นมาพัฒนาใช้กับชีวิตตัวเอง


หลักกิโลเมตรที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลักคิดเปลี่ยนไป


การได้มาเล่นหนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ทำให้มุมมองในชีวิตคุณเปลี่ยนไป ปกติคุณเป็นคนชอบเล่นกีฬา เป็นคนตีแบต ตีกอล์ฟ ตีเทนนิส เล่นกีฬาที่แข่งขันได้ แต่ไม่ชอบกีฬาวิ่งเลย เพราะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ตอนที่ได้อ่านบทเรื่องนี้ คุณสนใจมาก ว่าการวิ่งมาราธอนกับชีวิตคนเรามันไปด้วยกันได้อย่างไร หนังเรื่องนี้ทำให้คุณได้ไปวิ่ง และทำให้คุณชอบการวิ่ง พอลองได้มาวิ่งดู ชีวิตเปลี่ยนไปเลย จากตอนแรกไม่เข้าใจทำไมคนเราถึงต้องสละเวลามาวิ่งในระยะทาง 42.195 กิโลเมตร แต่พอได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ ทำให้รู้ว่าการวิ่งมาราธอนมันได้อะไรมากกว่าการออกกำลังกาย เพราะการวิ่ง เป็นกีฬาที่เราสามารถเล่นคนเดียวได้ ตอนวิ่งเราจะค้นพบบางอย่าง ถ้าเรามุ่งมั่นจะทำอะไรแล้ว เราสามารถทำมันได้ เพราะทุกฝีเท้าที่ก้าวไป ไม่ใช่แค่เพียงชัยชนะ แต่คือการเอาชนะตัวเองที่จะวิ่งไปถึงเป้าหมาย และสองข้างทางเราได้พบอะไรมากมายกว่าที่คิดจริงๆ


มองพี่เก้ง พี่สู่ขวัญ เป็นแรงบันดาลใจ


รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานกับพี่เก้ง ผู้กำกับที่ลึกซึ้งและสุดยอดมาก พี่เก้งให้แนวทางใหม่ๆในการทำงาน คุณเตรียมพร้อมที่จะเล่นให้สมบทบาท ตั้งใจแสดง แต่พี่เก้งจะบอกว่า ให้เล่นเป็นธรรมชาติ พี่เก้งใจเย็น เป็นคนที่คอยสอนคุณเหมือนลูกคนหนึ่ง คุณเลยรู้สึกว่าเหมือนมีคุณพ่อมากำกับหนัง


สำหรับพี่สู่ขวัญก็เป็นนักแสดงที่ทุ่มเทมาก ตอนแรกเป็นห่วงมากที่เข้าฉากด้วยกัน เพราะเราไม่ใช่นักแสดงทั้งคู่ แต่ปรากฏว่าเห็นฉากแรกที่พี่ขวัญเล่น แล้วตกใจ แสดงได้มืออาชีพมากๆครับ และซีนไหนที่คุณเล่นไม่ได้ พี่ขวัญจะพยายามมาอยู่ข้างๆ บอกสู้ๆ ดีใจมากครับที่ได้ร่วมงานกับพี่ขวัญและพี่เก้ง


ส่วนพี่โอปอล์เป็นสีสันกับหนังเรื่องนี้มาก พี่โอปอล์นำมาซึ่งความสุข ความสนุกมามอบให้กับพวกเรา แค่เห็นหน้าก็มีความสุขแล้ว สำหรับหนังเรื่องนี้ผมทุ่มเทมากครับ มันไม่ใช่แค่หนังรัก แต่เป็นหนังรักที่ให้พลังและกำลังใจที่ดีครับ


 


สู่ขวัญ บูลกุล



อิทธิพลของเลข 7 ความผูกพันต่อชีวิต


ขวัญเป็นคนชอบเลข 7 เพราะเกิดวันที่ 27 ถ้ามีใครถามว่าชอบเลขอะไรก็มักจะบอกว่า 27 เพราะที่เป็น 7 มักรู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับเรา ยิ่งถ้าเป็นเลข 27 มันเหมือนเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตอยู่ตลอดเรื่อยๆ เรียนนิเทศจุฬาก็รุ่น 27 บางทีหาที่จอดรถไม่ได้ เพราะจะสายแล้ว ก็จะได้ที่จอดรถเบอร์ 27 โดยบังเอิญ ในเรื่องป้ายนักวิ่งมาราธอนในฉากหนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ก็เป็นเสื้อเบอร์ 027 และบางทีก็มักมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับเลข 7 อยู่เสมอๆ จึงมีความรู้สึกดีๆ และผูกพันกับเลขนี้ ทุกๆ 7 ปี ของตัวขวัญความเปลี่ยนแปลงภายนอกอาจไม่เห็นชัด แต่การแปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดจากความคิดข้างใน การมองโลก ทัศนคติ มีผลกับชีวิตมากกว่า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงบางเรื่อง เราอาจจะจำไม่ได้ ว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อาจจะมีแต่ไม่ได้อยู่ในรูปของเหตุการณ์ แต่บางเรื่อง อาจเป็นแรงบันดาลใจให้เราเปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนมุมมอง ซึ่งมันจับต้องลำบาก แต่ไม่ว่า 7 ปีนี้ หรือ 7 ปีไหน ยังไงคนเราก็ต้องเปลี่ยนแปลง


เล่นหนัง และการวิ่ง ของขวัญชิ้นใหม่ในชีวิต


เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของขวัญ และเป็นการวิ่งจริงจังครั้งแรก จุดสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเล่นหนังเรื่องนี้ ต้องยอมรับเลยว่าเพราะพี่เก้งเป็นผู้กำกับในดวงใจ ขวัญเชื่อมั่นในมุมมอง รสนิยมในจินตนาการของพี่เก้ง และอยากลองทำอะไรใหม่ๆสักครั้งในชีวิต เพ

Continue Reading
You may also like...
Click to comment

Leave a Reply

More in THAI

Hot Tag

Trending

Follow me on Twitter

To Top