[สรุป] MIYAVI 382 BKK Fan Meeting ครั้งแรกของเจร๊อคตัวพ่อในเมืองไทย (2009-12-30)

นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี 2009 กับผู้จัดงานอย่าง Asian Paradise ที่พาศิลปินจากแดนอาทิตย์อุทัยมาให้แฟนๆในบ้านเราได้มีตติ้งกันอย่างใกล้ชิด กับงาน MIYAVI 382 BKK Fan Meeting เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ อาคาร สยามกลการชั้น 5 ห้องประชุมดร.ถาวร พรประภา

ก่อนจะได้พบกับศิลปินตัวจริงในงาน เริ่มวอร์มอัพกันที่ โกะมิยาบิ(ชื่อแฟนคลับ)ได้ชอปปิ้งสินค้าหน้างานของแท้จากญี่ปุ่นที่ มิยาบิขนมาฝากกันในราคาคนไทยๆ
เมื่ออุ่นเครื่องกันพร้อมแล้วก็เข้าสู่บรรยากาศของไลฟ์คอนเสิร์ตภายในงาน มิยาบิเปิดตัวด้วยการถือร่มญี่ปุ่นออกมาบังหน้า ก่อนจะใส่ลีลาโยนทิ้งไปอย่างสวยงามและเริ่มด้วยเพลง Wat’s My Name? ซึ่งแฟนๆก็ให้การต้อนรับด้วยการตะโกนเรียกชื่อ มิยาบิๆๆ กันอย่างสุดเสียง ต่อด้วยเพลง Please Please Please และตามด้วยช่วงทักทายภาษาไทยที่มิยาบิเตรียมมาเพื่อเซอร์ไพรซ์โกะมิยาบิไทยโดยเฉพาะ ทั้ง “ขอเสียงหน่อย”, “เหนื่อยมั้ย” ก่อนเข้าสู่เพลง Ame ni Utaeba และ PaPa MaMa ที่แฟนๆทุกคนร้องท่อนฮุคพร้อมกัน และไฮไลท์ด้วย Kimi ni Negai wo ซึ่งเป็นเพลงที่ดึงดูดอารมณ์ของทุกคนด้วยที่มาของบทเพลงซึ่งตัวมิยาบิ เองตั้งใจเขียนเพลงนี้เพื่อแฟนๆโดยเฉพาะ ต่อด้วยการเปลี่ยนอารมณ์ให้แฟนๆทุกคนได้โยกกันมันส์ๆกับเพลงเร็วอย่าง Joushougaidou และ พูดคุยหลังจบเพลงเพื่อนำเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาสกับเพลง Jingle Bell ที่ มิยาบิ เตรียมมาพิเศษเพื่อให้เข้ากับเทศกาลที่กำลังจะมาถึง

ปิดท้ายกันด้วยเพลงดังที่มีเนื้อหาให้กำลังใจอย่าง Ashita Genki ni Nare ที่แฝงนัยยะว่า งานวันนี้อาจเป็นเพียง Show case เล็กๆ แต่ครั้งหน้า เราอาจได้พบกันในฟูลสเกลคอนเสิร์ต ดังความหมายของเนื้อเพลงโดยรวมที่สื่อว่า พรุ่งนี้จะต้องดีกว่านี้

หลังจากจบไลฟ์และปล่อยให้ศิลปินพักผ่อนไม่นาน ก็เข้าสู่ช่วงสัมภาษณ์ที่  มิยาบิ ต้องจับฉลากคำถามที่แฟนๆเขียนส่งมากันหน้างานเพียง 10 คำถามจากทั้งหมด โดยมีดีเจสนุ๊กเกอร์รับหน้าที่พิธีกร และดีเจอากิที่นอกจากจะเป็นแม่งานเองแล้ว ยังต้องสวมบทบาทล่ามอีกด้วย  นอกจากจะเรียกเสียงหัวเราะของผู้เข้าร่วมงานจากคำตอบของ มิยาบิ แล้ว ทุกคำถามที่จับขึ้นมานั้น เจ้าตัวคนถามจะต้องยืนขึ้นปรากฏกายท่ามกลาง 350 ที่นั่ง และบรรยากาศนั้นทำให้รู้สึกว่าสามารถใกล้ชิดกับตัวศิลปินได้มากขึ้น ถือเป็นช่วงที่เติมสีสันให้กับงานมากเลยทีเดียว
และได้เวลาที่โกะมิยาบิทุกคนต้องลุ้นกันสุดตัวในช่วง lucky draw แฟนๆ 20 คนภายในงานผู้โชคดีจะมีสิทธิได้จับมือกับ มิยาบิ พร้อมกับผู้ที่เป็นออฟฟิศเชี่ยลแฟนคลับหรือ CWIF (Co-miyavi Worldwide International Family) ทุกคนที่มาในงานนี้

เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของงาน  มิยาบิ ออกมาบนเวทีเพื่อโบกมือลาแฟนๆและขอบคุณที่มางานวันนี้อีกครั้ง ส่งท้ายกันที่ แฟนๆฝากของขวัญให้ มิยาบิ ขณะเดินออกจากฮอลล์ และรับของขวัญคริสต์มาสซึ่งเป็นรูปถ่ายพร้อมลายเซนต์ที่เจ้าตัวเขียนว่า Thank you for waitin’ ให้เป็นที่ระลึกต่อความประทับใจกับงานในครั้งนี้