งานเปิดตัวผลงานหนังสือเล่มแรกในชีวิตของมาโอะ (Mao) นักร้องนำจากวงชิโดะ (SID)! (2010-03-09)

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เพิ่มบทบาทให้กับตัวเอง หลังจากผ่านการเดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัวในวงการดนตรีญี่ปุ่นมาแล้วเกือบ 2 ปี และซิงเกิ้ลล่าสุด “Sleep” ที่ออกมาเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาสามารถคว้าอันดับ 2 จากโอริคอนชาร์ตประจำวันไปครองได้อย่างงดงาม
 

นักร้องนำคนเก่งจากวงชิโดะ (SID) ที่กำลังมาแรงในญี่ปุ่นอย่างมาโอะ (Mao) ได้เปิดตัวหนังสือเล่มแรกอย่างเป็นทางการ จากการรวมบทความที่เป็นผลงานของเขาทั้งหมดในคอลัมน์ “อิปปิทสึงะคิ โนะ บิงะคุ” (Ippitsu gaki no Bigaku) จากนิตยสารดนตรีรายเดือน PATiPATi ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2007 จนถึงเดือนมกราคม 2010 จำนวน 33 คอลัมน์ด้วยกัน และภายในเล่มยังมีบทความที่เจ้าตัวเขียนขึ้นมาพิเศษจากการไปเที่ยวประเทศเกาหลีอีก 2 บทความและที่เขียนพิเศษเพื่อลงในหนังสือเล่มนี้อีก 1 บทความ จึงรวมเป็นทั้งงหมด 36 บทความจากปลายปากกาของมาโอะล้วนๆ!
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีการจัดอีเวนท์พิเศษสำหรับให้แฟนๆผู้ที่ต้องการเข้าร่วมงานเปิดตัวหนังสือมาต่อแถวเพื่อรับบัตรคิวหน้าร้านหนังสือฟุคุยะ (Fukuya) สาขาชินจูกุ (Shinjuku) จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 1000 คน โดยจะเริ่มแจกบัตรคิวตั้งแต่เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป แต่เมื่อเวลาประมาณ 5.30 น. กลับมีแฟนๆที่มายืนรอต่อแถวแล้วจำนวนเกือบ 300 คน! และครบ 1000 คน ตั้งแต่เวลาประมาณ 7.00 น. ซึ่งถือว่าเร็วกว่าเวลาที่กำหนดในการแจกบัตรคิวราว 2 ชม.เต็ม นั่นเป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ถึงความนิยมและความทุ่มเทของแฟนๆของมาโอะในญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
วันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา แฟนๆที่ได้รับบัตรคิวทั้ง 1000 คน ก็เริ่มทยอยมาเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบในพื้นที่ที่ทางร้านหนังสือฟุคุยะจัดไว้ให้ แฟนเพลงที่เป็นผู้หญิงส่วนมากแต่งตัวด้วยแฟชั่นสไตล์อาไม่โลลิต้า (Amai Lolita) คือชุดโลลิต้าน่ารักๆ สีหวาน ตามบทสัมภาษณ์ที่มาโอะเคยบอกว่าชอบสาวๆที่แต่งตัวสไตล์นี้ ของขวัญและจดหมายจากแฟนๆจำนวนมากสามารถมอบให้กับมาโอะโดยใส่ลงในกล่องที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้
เมื่อเข้าไปในร้านแล้วจะเห็นว่า ทางร้านจัดพื้นที่โดยการแบ่งด้วยรั้วกั้นไว้ให้เดินกันอย่างเป็นระเบียบคล้ายกับเวลาซื้อตั๋วภาพยนตร์ โดยผู้เข้าร่วมงานจะต้องยื่นบัตรคิวให้พนักงานแล้วจึงจะได้รับหนังสือพร้อมลายเซนต์ก่อนที่จะได้พบกับมาโอะตัวจริง บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยระบบการจัดการที่ดีของพนักงานในร้าน แถวของผู้เข้าร่วมงานเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วด้วยอัตรา 300 คนต่อ 10 นาที และมีเสียงกรี๊ดของแฟนๆดังขึ้นเรื่อยๆเป็นระยะ มีบ้างที่ร้องไห้ด้วยความตื้นตันที่ในที่สุดก็ได้พบและจับมือกับศิลปินที่ตัวเองชอบ
มาโอะปรากฏตัวด้วยมาดของชายหนุ่มมาดของชายหนุ่มเต็มตัวด้วยสูทสีเทาเนี้ยบเรียบหรูมีสไตล์ พร้อมกุมมือขวาของแฟนๆทุกคนที่จะเตรียมพร้อมยื่นมือขวาตามป้ายที่บอกไว้ก่อนจะได้เข้ามาในพื้นที่ของการจับมือ และยิ้มให้กับทุกคนที่เข้าร่วมงาน

ในครั้งนี้ก็มีคนที่ได้เข้าร่วมทั้งหมด 1000 คน
ต้องขอบคุณร้านหนังสือฟุคุยะที่อุตส่าห์จัดงานจับมือที่ใหญ่ขนาดนี้ให้จริงๆครับ
 

ด้านในก็อารมณ์นี้แหละครับ
 

แฟนๆจำนวนมากที่รออยู่ด้านนอก
 

จากตรงนี้ไปแถวก็ยาวจนมองไม่เห็นปลายแถวเลยครับ
ทุกคนที่พยายามต่อคิวเพื่อให้ได้บัตรมางานจับมือ และอุตส่าห์มาเข้าแถวรอ
ขอบคุณนะครับ
 

ในระหว่างพักเมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 300 คน

 
จดหมายและของขวัญจำนวนมาก
พอมาดูอีกทีจำนวนก็เพิ่มขึ้นเยอะกว่าเดิมอีก

และพอเลี้ยวตรงมุมนี้ไป….

ก็จะเจอมาโอะ!

จับมือ จับมือ
มีเด็กน้อยมาด้วย
ทำให้สดชื่นขึ้นมาเลย

แล้วก็จับมือครบ 1000 คนอย่างราบรื่น
จบงาน
 

กลับบ้านด้วยรอยยิ้ม

และมีเรื่องที่ผมอยากจะขอโทษทุกคน
ถึงเรื่องที่ต้องจับมือกับทุกคนด้วยความเร็วขนาดนั้น
มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆแค่ไม่กี่วินาที
เพราะว่าจะไม่สามารถจับมือได้ครบ 1000 คน เลยถ้าหากไม่ใช่ความเร็วระดับนั้น
บางครั้ง ผมไม่สามารถจะหาถ้อยคำมาพูดตอบแฟนๆที่กำลังเริ่มพูดกับผมได้ทัน
และนั่นทำให้ผมรู้สึกว่าต้องขอโทษ

สำหรับแฟนๆที่จะเจอกันที่ฟุกุโอกะในวันพรุ่งนี้
ผมจะดีใจมากถ้าทุกคนเตรียมคำพูดที่ “ตัดสินใจไว้แล้วล่ะว่าจะพูดอันนี้” เอาไว้
ไหนๆก็จะได้เจอกันทั้งที ผมก็อยากจะทำให้การพบกันของเราไม่มีอะไรที่จะต้องมาเสียดายภายหลัง

ทุกคนที่อุตส่าห์เข้าร่วมงานที่ชินจูกุวันนี้
ขอบคุณมากจริงๆครับ
อ่านหนังสือกันเยอะๆนะ
แล้วก็ล้างแต่มือข้างที่ผมไม่ได้จับด้วยล่ะ 555555
ล้อเล่นนะครับ
พรุ่งนี้ก็มาสนุกกัน!!”

 

มาโอะกับกองหนังสือที่จะต้องเซนต์ก่อนวันงาน

บัตรคิวที่ได้รับเพื่อเข้าร่วมงานเปิดตัวหนังสือวันที่ 6

แฟนๆที่แต่งกายสไตล์อาไม่โลลิต้ากับบรรยากาศการต่อแถว

ลายเซนต์ของมาโอะจากในหนังสือหน้าแรก