Connect with us

PINGBOOK

KOREA

มารู้จักกับ KARA (คาร่า) ให้มากขึ้น กับบทสัมภาษณ์จาก Cool Magazine (2007-08-10)

สิ่งที่คาร่าเหลือเอาไว้หลังจากพบกันครั้งแรกคือความงดงามและความสุขที่ชุ่มปอด
อายุและประสบการณ์ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
เพราะพวกเธอมีความมั่นใจอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
ความมีพลังของพวกเธอเล่นเอาพวกเราหยุดหายใจไปชั่วขณะ
และเราก็ได้เริ่มค้นพบถึงไวรัสตัวใหม่อย่างช้าๆ มันชื่อ “คาร่า” มันสามารถฆ่าคนและแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว
แต่คุณอย่าคิดจะหนีไวรัสตัวนี้เลย ยืดอกรับมันดีกว่า !
บางครั้ง “การติดเชื้อ” ก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร


ถาม : พวกคุณพึ่งผ่านการฉลองครบรอบ 1 เดือนตั้งแต่เริ่มเปิดตัวสู่สาธารณะ และพวกคุณจะทำอย่างไรถ้าคุณต้องฉลองครบรอบ 1 ปี ?
คยูริ :
ตารางงานยุ่งมากเลยค่ะ จนเราไม่มีเวลาที่จะมาสนใจวันครบรอบอะไรพวกนั้น พี่ๆทีมงานเป็นคนเตือนพวกเรา ทำให้เรารู้ว่าตอนนี้ครบรอบ 1 เดือนแล้วนับตั้งแต่เปิดตัว
ซึงยอน : เราเลยไม่ได้มีการเตรียมงานอะไรเลยค่ะในวันนั้น
ซองฮี : ถ้าครบรอบ 1 ปีเหรอคะ เราก็น่าจะมาอยู่ด้วยกันแล้วแสดงความยินดีให้แก่กัน รวมถึงชื่นชมถึงการทำงานหนักของแต่ละคนในทีมด้วย แล้วเราก็อาจจะลำรึกความทรงจำตั้งแต่เราเริ่มเข้าสู่วงการตลอดช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่า
นมา พูดถึงความสุข เสียใจ ที่เราผ่านมาตลอดและเรียนรู้จากมัน และสำหรับในอนาคตเราก็จะมองหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงงานในภายภาคหน้าด้วยค่ะ
นิโคล : ถึงแม้ว่าเรายังไม่ได้จัดปาร์ตี้อะไร แต่ถ้าเราได้รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมก็คงจะดีนะ ฮ่าฮ่าฮ่า


ถาม : Break It เป็นเพลงที่ไว้เปิดตัวพวกคุณ ด้วยเสียงที่ทรงพลัง มีเหตุผลอะไรไหมคะ ?
คยูริ :
ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษค่ะ ทุกเพลงในอัลบั้มของเรามีเอกลักษณ์ของมันเอง ซึ่งมีทั้งเพลงที่มีความสุขและเพลงที่หวานๆ รวมไปถึงเพลงบัลลาดเศร้าๆ ที่ผสานเข้ากับอายุของพวกเราได้อย่างลงตัว สำหรับเพลงที่ทรงพลังอย่าง Break It น่าจะเป็นเพลงที่เข้ากับพวกเราทั้งวงได้มากที่สุดค่ะ


ถาม : อะไรคือเอกลักษณ์ของคาร่า ที่แตกต่างจากกลุ่มนักร้องหญิงอื่นๆ
ซึงยอน : ก่อนอื่นเลย พวกเรา 4 คนก็มีสไตล์แตกต่างกันไป นั่นทำให้ผู้ฟังทุกคนสามารถซึบซัมเอาสไตล์ที่แตกต่างนี้ไปได้จากสมาชิกแต่ละคน แล้วอายุของพวกเราก็เหมาะกับวัยรุ่นสมัยใหม่ที่มีพลังมากอย่างเหลือเฟือ และที่สำคัญเรามีความสดใสบริสุทธิ์ด้วยค่ะ


ถาม : ก่อนจะขึ้นแสดง ถ้ารู้สึกประหม่าพวกคุณจะทำอย่างไรเพื่อผ่อนคลาย สำหรับวงอื่นๆก็จะมีวิธีเรียกกำลังใจของแต่ละวงเป็นเอกลักษณ์ สำหรับคาร่ามีบ้างไหมคะ ?
คาร่า : มีแน่นอนค่ะ ก่อนเราจะขึ้นแสดง เราจะประสานมือกันแล้วพูดว่า ไฟติ้ง !


ถาม : สองสามวันก่อน พวกคุณและรุ่นพี่ฮโยริได้สร้างประสบการณ์บนเวทีที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง พวกคุณรู้สึกอย่างไร
คยูริ : การที่ได้ใกล้ชิดกับรุ่นพี่ฮโยริซึ่งพวกเราเคยเห็นเธอจากในทีวี และจนถึงมาได้ร่วมงานในเวทีเดียวกัน ตอนที่พวกเราเห็นรุ่นพี่ร้องเพลงอยู่บนเวทีต่อหน้าเรา พวกเราก็รู้สึกว่ารุ่นพี่เจ๋งมากๆเลยค่ะ แต่ในขณะที่รุ่นพี่อยู่บนเวทีอยู่นั้นจริงๆแล้วรุ่นพี่เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายมากๆค่ะ รุ่นพี่ดูแลพวกเราอย่างดีและให้คำแนะนำด้วย พวกเราเรียนรู้มาเยอะมากค่ะ
ซองฮี : ในคอนเสิร์ตวันนั้นเราได้ยินเสียงตอบรับจากคนอื่นมากๆค่ะ ซึ่งมันก็ออกมาดี ทำให้พวกเรามีความสุขมากๆ เป็นเกียรติอย่างยิ่งด้วยค่ะ


ถาม : ถ้าเป็นอย่างงี้ ทำไมคุณไม่แนะนำเพลงจากอัลบั้มให้ผู้อ่านบ้างล่ะคะ
ซองฮี : ฉันอยากแนะนำเพลง Us Two ซึ่งมันเป็นเพลงสำหรับไว้ฟังในฤดูร้อน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่รักใหม่ๆที่ออกเดทท่ามกลางการไปท่องเที่ยวในฤดูร้อน เหมาะมากๆสำหรับคู่รัก หรือว่าคนที่กำลังจะมีความรัก
นิโคล : ฉันแนะนำ Dont Be Shy ค่ะ เพลงนี้เกี่ยวกับผู้ชายที่แอบชอบผู้หญิงแต่อายไม่กล้าบอกรัก ทำให้ผู้หญิงเลือกที่จะบอกรักผู้ชายก่อน เรื่องราวของ “อย่าอายและเดินเข้ามาหาฉันอย่างมั่นใจ” มันน่ารักและโรแมนติกมากๆเลยค่ะ


ถาม : คุณเห็นความแตกต่างในตัวคุณ ณ เวลานี้กับตอนก่อนที่จะเปิดตัวไหมคะ
คยูริ :
ครั้งแรกที่ฉันขึ้นเวทีฉันประหม่ามากๆค่ะ บนเวทีฉันสั้นเป็นเจ้าเข้าเลย สมองของฉันเบลอไป 3-4 นาที ฉันไม่สามารถตอบคำถามตัวเองได้ว่าฉันมายืนทำอะไรที่นี่ และกำลังทำอะไร สำหรับตอนนี้ก่อนที่ฉันจะขึ้นเวที ฉันจะทำใจให้เย็นลงและบอกกับตัวเองว่าฉันมาทำอะไรที่นี่ และอะไรที่ฉันจะพัฒนาการแสดงบนเวทีนั้นให้มันดีขึ้นได้ ดังนั้นตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันใจเย็นมากกว่าเมื่อก่อนมากค่ะ การแสดงและอารมณ์ของฉันขณะอยู่บนเวทีมันเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งฉันก็คิดว่าสมาชิกคนอื่นๆในวงคงไม่ต่างอะไรจากฉันมากมั้งคะ


ถาม : คาดหวังสำหรับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ตอนปลายปีนี้ไหม แล้วถ้าได้จริงๆอยากจะพูดอะไรบนเวที
คาร่า :
อย่างแรกเราต้องขอบคุณพี่ๆทีมงาน DSP ที่ทุ่มเทกับพวกเราอย่างมาก รวมไปถึงผู้จัดการของเรา แล้วเราก็จะขอบคุณสมาชิกในวง พ่อแม่ของพวกเรา เราต้องขอบคุณทั้งหมดเลยค่ะ และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เราต้องขอบคุณการทำงานหนักของพวกเรากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เอ้ะ นี่พวกเราไม่ได้พูดมากไปหน่อยใช่ไม๊ค่ะ ฮ่าๆๆๆ



พวกเรา 4 คนเคยมีทางเดินของแต่ละคน
แต่เพราะว่าปาฏิหารทำให้พวกเราต้องยึดมั่นไปด้วยกัน
นักร้องไอดอลอย่างนั้นเหรอ นั่นมันเป็นความฝันของเด็กหญิงทุกคนนะ
พวกเราจะก้าวไปสู่จุดนั้นได้ไหมนะ


ถาม : เรารู้มาว่าแม่ของคยูริเป็นนักแสดงด้วย แม่ของคุณเคยพูดถึงการแสดงของคุณไหม เธอพอใจไหมคะ
คยูริ :
ค่ะ แม่ชอบพูดกับฉันอยู่บ่อยๆ ว่า “ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อย่าทำให้ตัวเองรู้สึกเครียด ตราบใดที่ลูกทุ่มเททุกสิ่งที่ลูกมีลงไป ลูกจะได้ทั้งงานและความสนุกกลับมา” หลักจากที่ฉันได้ยินสิ่งที่แม่สอน ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ฉันจะทำให้เต็มที่ และจะมีความสุขกับมัน ครอบครัวฉันสนับสนุนฉันตลอดถึงแม้ว่าฉันจะตัดสินใจมาเป็นคนในวงการบันเทิง พวกเขามักจะมาดูฉันแสดงคอนเสิร์ตบ่อยๆ และชมว่าฉันทำดีแล้ว และถ้าเรายิ่งทำงานหนักเท่าไหร่ อนาคตที่สดใสก็จะรอพวกเราอยู่


ถาม : ซึงยอนคะ มีใครที่สงสัยว่าคุณอายุน้อยไหมคะ (จากหน้าตาที่ดูเด็ก) เพราะว่าคุณเป็นพี่คนรองของวง คุณเคยกวดขันน้องๆอะไรบ้างไหมคะ
(เงียบไปชั่วขณะ)
ซึงยอน : ไม่ค่ะ… (หัวเราะ)
คนอื่นๆ : เราไม่เคยรู้สึกเลยว่าเธอกวดขันพวกเรานะ
ซองฮี : ถึงแม้ว่าพี่จะตัวเล็ก แต่พี่ตัดสินใจเร็วมากๆค่ะ เล่นเอาเราช็อคไปหลายครั้งแล้ว


ถาม : ซองฮี คือสมาชิกที่เข้ารับการอบรมการเป็นนักร้องที่นานที่สุด พ่อแม่ของคุณเคยไม่เห็นด้วยบ้างไหม
ซองฮี :
ค่ะ นานมากๆเลยค่ะ แต่มันก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พ่อแม่ฉันสนับสนุนดีมากๆ พวกท่านไม่เคยต่อต้านเลยค่ะ เมื่อฉันรู้สึกกดดันและเหนื่อย ฉันมักจะเตือนตัวเองเสมอว่า แม้ว่าฉันตายไป ฉันก็ต้องปรากฏตัวในจอทีวีเพื่อความภาคภูมิใจให้ได้ ฉันฝากชีวิตไว้ตรงจุดนั้นแล้วฉันเลิกมันไม่ได้ ความคิดเหล่านั้นวนเวียนอยู่ในหัว


ถาม : นิโคลไปอยู่อเมริกาเมื่อตอนยังเด็ก อะไรเป็นจุดมุ่งหมายที่คุณกลับมาที่เกาหลีและเป็นคนในวงการบันเทิง ภาษาเกาหลีคุณพัฒนาขึ้นไปมากหรือยัง
นิโคล :
ตั้งแต่ฉันยังเด็ก ฉันสนใจในดนตรี การเต้น และงานบันเทิงอื่นๆ โดยเฉพาะการเต้นนี่แหละ ประจวบเหมาะกับโอกาสที่เข้ามาในชีวิตฉันพอดี ฉันได้เห็นการแสดงอันนึงที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าอยากจะไปอยู่บนเวทีนั่นจัง หลังจากที่ฉันเต้นอยู่คนเดียวเป็นเวลานับปี และฟังเพลงหลากหลายสไตล์ ฉันก็ได้มีโอกาสไปออดิชั่น และได้รับการฝึกอบรมจนได้เป็นหนึ่งในสมาชิกวงคาร่า ฉันอยู่เกาหลีมาช่วงนึงแล้ว เรื่องภาษาก็เลยพัฒนาขึ้นมาก
ซองฮี และ คยูริ : ให้พูดจริงๆนะ เมื่อก่อนเราสื่อสารกับเธอไม่ค่อยรู้เรื่อง เราไม่เข้าใจที่เธอพูดเลยอะ !
ซึงยอน : เธอเรียนเกาหลีหนักมากค่ะ อดทนต่อคำดุด่า ตอนนี้ดีขึ้นมากๆเลยค่ะ ปัญเดียวที่เราเจอคือ ในขณะที่เธอเก่งเกาหลีมากขึ้น แต่พวกเรากลับห่วยลงค่ะ (หัวเราะ)
คยูริ : ใช่เลย ภาษาเกาหลีเราแย่มากๆ !
ซองฮี : เพราะว่านิโคลเรียนภาษาเกาหลีแบบปกติ เวลาเธอไม่เข้าใจศัพท์วัยรุ่น พวกเราก็ต้องอธิบายเธอแบบพื้นๆที่สุด ทำอย่างนั้นได้ซักพัก เราก็เลยคุ้นเคยกับการพูดแบบพื้นๆกันตลอด บางทีประโยคอะไรที่ง่ายมากๆ พวกเราต้องพูดกันตั้งหลายบรรทัด สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือตอนที่เราไม่รู้ว่าเราต้องพูดเกาหลีหรือภาษาอังกฤษ เรายังไม่รู้เลยค่ะว่าพวกเราพูดอะไรกัน (หัวเราะ -*-)
ซึงยอน : พวกเรา 3 คนติดเชื้อจากเธอค่ะ (หัวเราะ)
// ผู้แปล ตกลงพวกเธอพูดอะไรกัน -*-



หนึ่ง ผู้มาพร้อมความสวย
หนึ่ง ผู้มาจากความเซ็กซี่
อีกสอง สร้างเสียงหัวเราะ
เสียงเซ็งแซ่ จิตวิญาณที่สงบนิ่ง ในโลกของวัยรุ่น..


แฝงไปด้วยพลัง เสียงเซ็งแซ่อยู่เหนือสันติภาพ
ถึงแม้ว่าคุณจะสัมผัสมันได้อย่างเต็มเปี่ยมก็ตาม
แต่เชื่อเถอะ คุณไม่มีวันเข้าใจ…


ถาม : ชายในฝัน
คยูริ :
ต้องเป็นชายจริงๆค่ะ ที่มีความคิดเป็นหลักการ และไม่ยึดติดกับอะไรง่ายๆ ยิ่งเป็นคนอารมณ์ดีแล้วยิ่งยอดเยี่ยมเลยค่ะ เพราะเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เวลาทุกวินาทีเหล่านั้นจะมีความหมายต่อเรามากๆ
ซึงยอน : ชอบคนที่เป็นห่วงเราค่ะ ผู้ชายที่จะสามารถเข้าใจเราได้ และถ้าผิวขาวด้วยจะเยี่ยมมั่กๆค่าาาา ฮ่าๆๆๆ
ซองฮี : อยากได้ผู้ชายที่อบอุ่นเหมือนพ่อค่ะ เวลาอยู่กับเขาจะรู้สึกปลอดภัย เอ่อ ถ้ามากไปกว่านั้นขอ… (เริ่มอาย) เป็นผู้ชายผมสั้นได้ไม๊ค๊าาาา ฉันว่าชายผมสั้นหล่อมากๆค่ะ
นิโคล : ฉันเหรอ (เริ่มอาย) ถ้าเทียบกับชายในฝันของพวกเธอแล้วล่ะก็ ฉันขอชายที่ไม่มีในสเป็คพวกเธอละกัน ขอชายที่มีรอยยิ้มอันสดใส นิสัยดี ถ้าฉลาดด้วยก็คงจะดี ฉันไม่ชอบผู้ชายที่หล่อมากไป


ถาม : คยูริชอบทิ้งข้อความที่ชมตัวเองว่าเธอสวยที่สุดในวง พวกคุณเห็นด้วยไหม
คยูริ :
ฮ่าๆ จริงๆแล้วฉันชอบทิ้งข้อความไว้หลังสมาชิกคนอื่นต่างหาก
คนอื่น : อ๊า เป็นอย่างนี้นี่เอง
คยูริ : ไม่เป็นไร ฉันมั่นใจย่ะ
ซองฮี : ก็เพราะเธอไม่น่ารักอ่ะดิ เลยพูดได้แต่ว่าตัวเองสวย อะล้อเล่นนนน
คยูริ : ไม่เป็นไร อยากพูดอะไรก็พูดไป ฉันไม่รู้จักเธอดีเท่าไหร่อยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ


ถาม : ใครเซ้กซี่ที่สุดในวง
คาร่า :
เซ็กซี่ เอ่อ…..
ซึงยอน : งั้นเรามานับถึง 3 แล้วชี้ไปพร้อมๆกันเอามะ
(ซองฮีชนะเลิศ)
ซองฮี : อ๊าว อะไรกันพวกเธอ กินอะไรผิดสำแดงป่าวเนี่ย
คยูริ : อะไรนะ ฉันไม่ได้พูดถึงเธอซักหน่อย ฉันชี้คนข้างๆเธอต่างหาก (ชี้ไปที่อีกคน)


ถาม : ตอนนี้พวกคุณพักอยู่ในหอพัก เคยคิดอยากจะกลับบ้านหรือเปล่า ช่วยเล่าเรื่องสนุกๆที่หอให้พังหน่อยสิ
ซองฮี :
สองสามวันก่อน พวกเราป่วยกันทุกคน ในเวลาแบบนั้นพวกเราคิดถึงบ้านมาก อยากกลับไปเจอพ่อแม่ของพวกเรา
นิโคล : พี่ซึงยอนและพี่คยูริหลับอยู่ในห้องนึง ฉันและพี่ซองฮีหลับอยู่ด้วยกันอีกห้องนึง อยู่มาคืนนึงพี่ซึงยอนก็ทำเสียงประหลาดๆแล้วโผล่มาที่ห้องฉันเพื่อขอนอนด้วย
คยูริ : จริงๆแล้วเธอมาหาฉันก่อน เธอมาที่เตียงฉันแล้วถามว่าถ้าจะนอนด้วยเป็นไรไหม ฉันก็ไม่ว่าอะไรแต่ตอนแรกก็รำคาญอ่ะ เพราะไม่เคยคิดว่าเธอจะมาป่วนคนอื่นได้ -*-
นิโคล : ฉันได้ยินเสียงร้องหงิงๆดังมาจากพี่ซึงยอน แล้วพี่ซึงยอนก็มาที่ห้องของฉันแล้วบอกว่า “เอ่อ คยูริ เธอ…” แล้วในตอนนั้นฉันกับพี่ซองฮีก็คิดเหมือนกันว่า “ทำไมพี่ซึงยอนเพี้ยนอย่างนี้เนี่ย…”
ซองฮี : ตอนดึกเลยในคืนนั้น เราเห็นเงาตะคุ่มๆ หัวฟูลอยมาหาเรา พูดจริงๆเลย กลัวมากๆเลยตอนนั้น
คยูริ : เรามีงานในวันถัดไป แต่เราก็หลับกันไม่ลงไม่ว่าจะทำยังไงก็ตาม -*-


ถาม : ซึงยอน ทำไมคุณทำอย่างนั้น !!
ซึงยอน :
ฉันอยากหาคนที่นอนด้วยได้ (ยิ้ม) ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก ฉันเหงาน่ะ


ถาม : เวลาอยู่ในหอพัก พวกคุณแบ่งหน้าที่กันยังไง
ซึงยอน :
อืมม ไม่มีหน้าที่แบ่งชัดเจนหรอกค่ะ ง่ายสุดก็ดูแลข้าวของของตัวเองมั้งคะ
คยูริ : เอ่อ.. ฉันต้องเป็นนาฬิกาปลุกเคลื่อนที่ไปปลุกพวกเธอนั่นแหละย่ะ
ซองฮี : ส่วนฉันทำความสะอาดสิ่งสกปรกทั้งหลายแหล่
คยูริ : ใช่ๆ อย่างงานเช็ดขี้แมลงก็งานของซองฮีไง ฮ่าๆๆ เธอต้องมารับหน้าที่หนักสุดจนได้


จีนเป็นสถานที่ที่เยี่ยมมากๆ
เราชื่นชอบอาหารท้องถิ่นของจีนมากๆ
ถึงแม้ว่ามันจะไกลไปซักหน่อยก็เถอะ
แต่ทุกๆก้าวทำให้พวกเราใกล้กันมากขึ้น
อีกไม่นานเราจะต้องไปถึงที่นั่นอย่างแน่นอน !


ถาม : สมาชิกในคาร่าพูดจีนได้ไหมคะ ?
คยูริ :
ฮ่าฮ่า ยังหรอกค่ะ แต่ในอนาคตเรากะจะเรียนกันอยู่แล้ว
คาร่า : (พูดจีน) พวกคุณเป็นยังไงกันบ้าง ขอบคุณค่า พวกเรา คาร่า นะค๊าาาา แค่นี้แหละ อ๊าาา
ซองฮี : ต่อไปนี้พวกเราจะตั้งใจเรียนภาษาจีนค่าาาา


ถาม : มีสมาชิกคนไหนเคยมาประเทศจีนบ้าง รวมไปถึงความทรงจำเกี่ยวกับจีนด้วยค่ะ ?
ซองฮี :
ตอนที่ฉันอยู่ชั้นประถม พ่อฉันทำงานที่จีนช่วงนึงไม่นานเท่าไหร่ ตอนนั้นฉันเลยได้มาอยู่ที่จีนและได้ไปเที่ยว ที่ๆสวยงามมากมายเลยค่า ถึงตอนนั้นฉันจะยังตัวกะเปี๊ยกก็เถอะ แต่มันก็สร้างความประทับใจให้ฉันได้มากเลยค่ะ
ซึงยอน : พ่อของฉันมาทำงานที่จีนบ่อยค่ะ แต่น่าเศร้าที่ฉันไม่เคยมาที่นี่เลย ทุกครั้งที่พ่อฉันกลับไปที่บ้านพ่อจะเอาภาพถ่ายสวยๆที่ถ่ายไว้เยอะมากๆ รวมถึงของฝากที่พ่อขนมาฝากจากมณฑลต่างๆของประเทศจีน จากภาพถ่ายรวมถึงสิ่งของต่างๆที่พ่อเอามาฝากฉัน โดยเฉพาะเวลาที่ฉันเห็นภาพเจ๋งๆพวกนั้น ทำให้ฉันเข้าใจประเทศจีนมากขึ้นค่ะ ฉันอยากมาเห็นกับตาสองตานี้จริงๆเลย !


ถาม : ชอบอาหารจีนไม๊ อยากไปเที่ยวที่ไหนในจีนมากที่สุดคร้าาา ?
คารา :
ชอบสุดๆเลยค่าาา นี่เราก็พึ่งไปกินอาหารจีนกันมาค่ะ
นิโคล : ฉันอยากไปกำแพงเมืองจีนค่ะ (เพราะว่าเธอไม่รู้ว่ากำแพงเมืองจีนพูดเป็นภาษาเกาหลีว่ายังไง เธอเลยพูดเป็นภาษาอังกฤษ) แล้วก็ฉันอยากไปดูการเชิดสิงโตตามวันหยุดของจีนด้วยอ่ะค่า และที่สำคัญฉันอยากไปกินสถานที่ที่มีอาหารที่อร่อยที่สุดในจีนค่ะ


ถาม : ชอบดาราจีนคนไหนเป็นพิเศษไหมคะ ?
คาร่า :
Zhang Jjeui, Gong Li ค่ะ เพราะว่าเค้าแสดงเก่งมากๆเลย อ้ะ ที่สำคัญหล่อๆสวยๆกันทั้งนั้นค่ะ


ถาม : คาร่าพึ่งเปิดตัวได้เพียงเดือนเดียว แต่ก็มีแฟนๆชาวจีนตั้งฟอรั่มขึ้นมาเพื่อพวกคุณ พูดอะไรถึงเขาหน่อยสิคะ
คยูริ :
พูดเป็นภาษาเกาหลีเลยเหรอคะ
ซึงยอน : ทำยังกะพวกเราพูดจีนได้งั้นแหละ แป่วววว ฮ่าๆๆ
คยูริ : พวกเราขอบคุณมากนะคะที่สนับสนุนพวกเรา พูดจริงให้ดิ้นตายเถอะ เราก็พึ่งรู้มาวันนี้เหมือนกันว่ามีคนจีนชอบและเป็นห่วงพวกเราเยอะมากๆ คาร่าจะทำงานอย่างหนักค่ะ ช่วยติดตามเราด้วยนะคะ แล้วก็รักพวกเรามากๆด้วยนะค่ะ
นิโคล : จริงๆแล้วพวกเรายังเปิดตัวได้ไม่นาน แล้วก็ยังใหม่ในวงการนี้อยู่ ขนาดคนเกาหลีบางคนยังไม่รู้จักพวกเราเลยค่ะ
คยูริ : ถูกต้อง แต่ก็ยังอุตส่าห์มีแฟนๆต่างประเทศที่คอยสนับสนุนพวกเราอยู่ เราขอบคุณพวกคุณมากๆนะคะ เราจะตอบแทนทุกคนด้วยการทำงานอย่างหนักที่สุดค่ะ


——————————————————————
credit:
http://www.kara-online.org/ & WithKARAThailand
แปลภาษาไทยโดย : ปิง @
http://www.pingbook.com
หากนำไปใช้กรุณาให้เครติดด้วยจ้า !!!


Continue Reading
You may also like...
Click to comment

Leave a Reply

More in KOREA

Hot Tag

Trending

Follow me on Twitter

To Top