KOREA
ท็อป (BIGBANG) ลุยงานภาพยนตร์เรื่องแรกแนวสงครามสุดท้าทาย ’71-Into The Fire’ (2010-05-10)
’71-Into The Fire (포화속으로/โพฮวาซกกือโร)’ เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับการสู้รบระหว่างทหารนักศึกษาและทหารประจำการของเกาหลีเหนือ ในเหตุการณ์สงครามเกาหลี 6.25 โดยได้มีการจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 เวลา 11.00 น. ณ ห้องดูเบฮอลล์ ชั้น 7 โรงแรมอิมพีเรียลพาเลส ย่านนนฮยอน เขตคังนัม กรุงโซล
ในวันนี้มีบรรดานักแสดงนำเข้าร่วมงานประกอบไปด้วย ชาซึงวอน (Cha Seung Won), ควอนซังอู (Kwon Sang Woo), คิมซึงอู (Kim Seung Woo), ท็อป (TOP ชเวซึงฮยอน) แห่ง บิ๊กแบง (BIGBANG) รวมถึงผู้กำกับ อีแจฮวาน (Lee Jae Hwan)
ในภาพยนตร์เรื่อง ’71-Into The Fire’ ชาซึงวอน รับบทเป็นเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ, ควอนซังอู จากภาพยนตร์เรื่อง ‘Running Wild’, ‘FATE’ รับบทเป็นชายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง, ท็อป นักฆ่าจาก ‘IRIS’ และ คิมซึงอู ต่างก็ได้แปลงโฉมมารับบทเป็นทหารนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ฝ่ายเกาหลีใต้อีกด้วยเช่นกัน
พัคจินฮี (Park Jin Hee) รับบทเป็นพยาบาลสาวผู้คอยปกป้องและมีความรักกับหัวหน้าทหารนักศึกษาท็อป
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ท็อป ต้องรับบทเป็น โอจังบอม ผู้นำทหารนักศึกษาทั้งหมด 71 คน ด้วยความที่เขายังเด็ก แต่กลับต้องกลายเป็นผู้นำซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบในการปกป้องผืนแผ่นดิน ทำให้เขาต้องเผยให้เห็นถึงความสับสนและความกลัวในตัวเองออกมาด้วยเช่นกัน
ชเวซึงฮยอน (ท็อป) เปิดเผยว่า “ตัวละครในเรื่องนี้แตกต่างจากวิคใน IRIS มากเลยครับ” เสริม “ผมต้องเน้นถึงความเป็นเด็กในตัวละครเรื่องนี้เข้าไปด้วยครับ” เขาอธิบายตัวละคร “ผมต้องคิดและพยายามอย่างมากเพื่อให้สามารถเขาถึงตัวตนของตัวละครนี้ซึ่งผมเลยไม่เคยได้ลองมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เพราะผมอยากให้ทุกคนเห็นภาพลักษณ์ใหม่ของผม ผมต้องคิดและใช้ชีวิตในแบบเด็กวัย 17 เลยนะครับ” เขากล่าว
โดยเฉพาะกับการรับบทบาทเป็นผู้นำรุ่นพี่ในภาพยนตร์เป็นครั้งแรกของท็อป เขาเปิดเผยว่า “เป็นอะไรที่สาหัสมากครับทั้งร่างกายและจิตใจเลยครับ โดยเฉพาะการที่ต้องแสดงความรู้สึกที่ไม่ได้ผ่านคำพูดนั้นมันเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก เป็นผลงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบและเป็นเรื่องที่ต้องทำด้วยครับ” เขากล่าวถึงภาระหน้าที่ที่ได้รับอย่างตรงไปตรงมา
ท็อป ที่ต้องร่วมแสดงกับนักแสดงมากฝีมืออย่างรุ่นพี่ชาซึงวอน ควอนซังอู และคิมซึงอู เขาเปิดเผยว่า “ในกองถ่ายพี่ๆเขาบอกกับผมว่า ‘สนามเด็กเล่นของนักแสดง’ ครับ” เสริม “การที่ผมได้รับคำแนะนำและกำลังใจที่ดีจากรุ่นพี่ทั้งสามคนมันทำให้ผมสามารถก้าวมายืนในมาดของนักแสดงได้ครับ” เขากล่าวขอบคุณ
โดยเฉพาะในภาพยนตร์เรื่องนี้ท็อปต้องเข้าฉากร่วมกับควอนซังอูเป็นจำนวนมาก เขาเปิดเผยว่า “ผมรู้สึกกดดันตอนเข้าฉากกับพี่ควอนซังอูครับ” เขาย้อนความทรงจำ อย่างไรก็ตามจากความเชี่ยวชาญในฉากแอ็คชั่นของควอนซังอูส่งผลให้เขาได้ให้คำแนะนำที่ดีกับชเวซึงฮยอน จนสุดท้ายเขาก็สามารถคล้ายความกังวลไปได้ในที่สุด
ท็อปกล่าวต่อ “พี่ชาซึงวอนเป็นนักแสดงที่ดีมากๆครับเขาให้ความช่วยเหลือผมเยอะเลย แต่ว่าเวลาผู้กำกับสั่งเดินกล้องเขาซึ่งรับบทเป็นผู้ร้ายสุดๆในตอนนั้นมันทำให้ผมตะลึงไปเลยครับ” เขากล่าว “เพราะเหตุนี้เองทำให้ผมเคยฝันถึงภาพของพี่ชาซึงวอนตอนน่ากลัวด้วยนะครับ” เขากล่าวพร้อมหัวเราะ
ผู้กำกับ อีแจฮวาน พูดถึง ชเวซึงฮยอน กล่าว “เพราะว่าท้อปไม่ใช่นักแสดงโดยอาชีพ ทำให้ตอนที่เราเคสติ้งตอนแรกๆมีหลายคนแสดงความเป็นห่วงครับ” เสริม “แต่ท็อปเป็นคอนที่มีเสน่ห์และความแข็งแกร่งครับ ทุกคนสามารถสัมผัสได้ในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน” เขากล่าว
ในขณะเดียวกันควอนซังอูก็ต้องรับบทเป็นนักเรียนวัยเดียวกับ ชเวซึงฮยอน (TOP) เขาเปิดเผยว่า “การแสดงแอ็คชั่นที่เน้นอารมณ์ไปพร้อมๆกันมันยากนะครับ” เสริม “แต่ไม่ว่าจะหนักหนาสักเพียงใดคุณซึงฮยอนก็จะไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้าเลยครับและนั่นมันทำให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี” เขากล่าว
ทางด้าน คิมซึงอู เปิดเผยว่า “ผมอายุมากกว่าควอนซังอู และชเวซึงฮยอน ทำให้ตอนแรกผมค่อนข้างกังวลมากเลยครับ แต่พอผมนั่งดูในจอมอนิเตอร์ปรากฏว่าควอนซังอูดูเด็กกว่าชเวซึงฮยอนอีกนะครับ” เสริม “เมื่อเขาใส่ชุดนักเรียนในภาพยนตร์แล้วเรื่องนั้นรุ่งแน่ครับ ผมเชื่อในพลังงานของเขาครับ” เขากล่าว
’71-Into The Fire’ ผลงานภาพยนตร์เรื่องถัดมาของค่าย TAE WON Entertainment ผู้ผลิตละครเรื่อง ‘IRIS’ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเดือนสิงหาคม 2493 เกี่ยวกับการต่อสู้ในสงครามเกาหลีที่กุมชะตากรรมของเกาหลีใต้ โดยเพื่อป้องกันไม่ให้ทหารเกาหลีเหนือรุกล้ำเข้าสู่เมืองพูซาน ส่งผลให้นักศึกษาจำนวน 71 คนร่วมกันอาสาสมัครหยิบปืนเพื่อต่อสู้กับทหารเกาหลีเหนือที่บริเวณแนวเส้นแม่น้ำนักดง ผ่านการเล่าเรื่องวีรกรรมของนักสู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียสละยิ่งใหญ่โดยสร้างจากเรื่องจริง
’71-Into The Fire’ ถ่ายทำเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมปีที่ผ่านมา และเตรียมเข้าฉายในวันที่ 17 มิถุนายน 2553