KOREA
เต็มอิ่มเกินร้อย U7 เนรมิต คอนเสิร์ต ‘Aucifer 10th Anniversary Live in Bangkok’ ประกาศศักดา ‘J-Rock Never Die’ (2010-09-27)
วันที่ 25 กันยายน 2553 เวลา 19.30 น. ลูซิเฟอร์ (ประกอบไปด้วย มาโกโตะ, ยูกิ, โทวะ, อัทซึโร่ และ ซันตะ) วงร๊อคจากแดนปลาดิบ ประเทศญี่ปุ่นกลับมาทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ และประกาศศักดา ‘J-Rock Never Die’ ณ สนามกีฬาอินดอร์ สเตเดี๊ยม หัวหมาก ในคอนเสิร์ต Aucifer 10th Anniversary Live in Bangkok ท่ามกลางแฟนคลับเจร๊อคทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่กว่า 3,000 คน ที่บางคนก็แต่งตัว ทำผม พร้อมแอสเซสซอรี่หลากหลายตามสไตล์เจร๊อคขนานแท้ รวมไปถึงคอสเพล์ สร้างสีสรรให้คอนเสิร์ตตั้งแต่ยังไม่เปิดประตูฮอลล์เลยทีเดียว
คอนเสิร์ตเริ่มล่าช้าเพียงเล็กน้อย ทันทีที่จบเพลงสรรเสริญพระบารมีและไฟในฮอลล์ดับลง เสียงกรี๊ดก็ดังระหึ่มขึ้น พร้อมเสียงเรียกเมมเบอร์แต่ละคน อุปกรณ์เชียร์ แท่งไฟ ต่างๆถูกหยิบขึ้นมาใช้โบกสะบัดไปทั่วบริเวณ ทางด้านจอบนเวทีเริ่มฉายภาพเก่าๆตั้งแต่การรวมตัวแรก ไปจนถึงเมมเบอร์ทีละคน แล้วค่อยๆเปิดตัวจริงออกมาเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลง พร้อมสไตล์การแต่งตัวแบบเจร๊อค แล้วก็ไม่รอช้า ทันทีที่อุปกรณ์พร้อม เสียงเพลง Datenshi Blue ที่แฟนๆรู้จักกันดีก็ดังกระหึ่มขึ้น พร้อมลีลาการร้องเพลงอันดุดันของมาโกโตะ (Makoto) ท่าทางการเล่นกีต้าร์ที่โดดเด่นของยูกิ (Yuki) ลีลานิ่งเงียบแต่คงไว้ซึ่งเสียงอันทรงพลังของกีต้าร์จากอัตซึโร่ (Atsuro) และเบสจากโทวะ (Towa) ไปจนถึงจังหวะกลองที่แข็งแรงและแม่นยำจากซันตะ (Santa) ที่สะกดคนดูทั้งฮอลล์ให้ตกอยู่ในห้วงของความมันส์ในดนตรีได้อย่างไม่ยากเย็น ต่อเนื่องด้วยเพลง Carnation Crime และ Furueru Magma ก่อนจะคั่นด้วยการทักทายกับแฟนคลับเล็กน้อยด้วยภาษาไทย พวกเรา คือ ลูซิเฟอร์ พร้อมรึยัง Are you ready? พร้อมรึยัง ช่วยกันร้องหน่อย
ต่อด้วยเซ็ตเพลงที่เบาขึ้นมาเล็กน้อยอย่าง Plasmagic โทวะเริ่มลงมาที่เวทีล่างใกล้ชิดกับแฟนเพลงมากขึ้น ในขณะที่ยูกิ เดินไปทักทายแฟนฝั่งขวา มาโกโตะยกมือโยกขึ้นลงเป็นจังหวะกับแฟนเพลง ก่อนที่จะเดินไปเล่นกับอัตซึโร่ ในเพลง Jealousy แล้วเรียกเสียงกรี๊ดสนั่นด้วยการหอมแก้มกลางเวที เล่นเอาอัตซึโร่มาดหลุดปล่อยยิ้มขำออกมา มาโกโตะ สนุกไหม สนุกไหม สุดยอด ก่อนที่จะเดินไปหยิบกุหลาบช่อโตออกมาโยนแจกพร้อมกับเพลง Dummy แล้วเหลือดอกสุดท้ายมาเด็ดก้าน เสียบไว้ที่หน้าอกของอัตซึโร่ เรียกเสียงฮาจากแฟนๆในความเป็นกันเองของสมาชิกในวง แล้วพักช่วงเล็กน้อยด้วยการกล่าวคำทักทายเป็นภาษาไทยที่เตรียมตัวกันมาอย่างดี
โทวะ : สวัสดีครับ ผมชื่อ โทวะ ครับ ขอเสียงหน่อย (แฟนๆ : กรี๊ด) ขอเสียงหน่อย ขอบคุณครับ ผมชอบคนไทย โอเค้? ขอเสียงหน่อย (ยิ้ม) (แฟนๆ : กรี๊ด)
ซันตะ : ผมชื่อ ซันตะ จุ๊บๆ ผมจะตีให้สุดชีวิต
ยูกิ : สวัสดีครับ ผมชื่อ ยูกิ ขอมือหน่อย (พยายามอ่านโพยที่พื้น) ผมหล่อไหม (แฟนๆ : หล่อ) ผมหล่อไหม ผมหล่อที่สุด (แฟนๆ : กรี๊ด + ฮา) อยากขี่ช้าง (ดึงโพยแผ่นโตมาอ่านใกล้ๆเรียกเสียงฮาจากแฟนๆ) ช้างน่ารักมาก โอเคไหม คนไทยน่ารักมาก Thank you. In Restaurant ไม่ใส่ผักชี (ฮา)
มาโกโตะ : ผมชื่อ มาโกโตะ สนุกไหม ช่วยกันร้องหน่อย พร้อมรึยัง
อัตสึโร่ : ผมชื่อ อัตซึโร่ รักมากจุ๊บๆ ทุกคนน่ารัก ผมรักเมืองไทย ดีใจที่ได้กลับมาอีก
มาโกโตะ : Are you ready? (แฟนๆ : Yesss)
ต่อด้วยเพลงดังที่แฟนไทยร้องตามกันได้อย่างพร้อมเพรียงอย่าง Tsubasa และ Tokyo Ilussion เบาจังหวะลงด้วย Love & Pain ที่คนดูโบกมือซ้ายขวาพร้อมกันอย่างสวยงาม ตามด้วยเพลงสบายๆอย่าง Shooting Star ก่อนที่จะปรับระดับความมันขึ้นด้วยเพลง Orange และ Junk City ที่มาโกโตะเอาตุ๊กตาหมีจากแฟนเพลงขึ้นมาหอม แล้วยื่นไปให้ยูกิจูบอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะโยนกลับคืนไปให้แฟน ต่อด้วยเพลง C no Binetsu แบบแรงดีไม่มีตก
มาโกโตะ : ดีใจที่ทุกคนไม่ลืมลูซิเฟอร์ ผมรักคุณมาก ผมรักทุกคนเลย ขอบคุณที่มาดูคอนเสิร์ต ช่วยกันร้องด้วย Are you ready?
ต่อเนื่องด้วยเพลงมันๆอย่าง Lucy ที่มาโกโตะเดินมาล้อเล่นเล่นกับยูกิ ก่อนจะเข้ามากอดล๊อคคอ แล้วหอมแก้มเข้าเต็มรัก เล่นเอาแฟนเพลงกรี๊ดสลบไปเป็นแถบ มาจนถึงเพลง Egovision และโซโล่กีต้าร์ของยูกิ ที่เดินเวียนโชว์การลีดกีต้าร์ขั้นเทพ ให้แฟนๆชมอย่างใกล้ชิดทั้งสองด้าน แล้วต่อด้วยเพลง Poker Face กับจังหวะที่เมามันจนนักร้องนำอดรนใจไม่ไหว กระโดดลงมาเล่นกับคนดูข้างล่างทั้งที่ไม่มีรั้วกัน สร้างความชุลมุนไปทั่วบริเวณ แต่มาโกโตะก็ยังพยายามจะไปเดินไปหาแฟนๆโซนข้างๆ ท่ามกลางบอดี้การ์ดที่พยายามอารักษ์ขาความปลอดภัย ก่อนที่จะต้องช่วยกันดันขึ้นเวทีกลับไป เพราะขึ้นเองไม่ไหว เรียกเสียงฮาจากทั้งแฟนเพลงและเพื่อนร่วมวง ตามติดด้วยเพลง Labyrinth และ Midnight Crow ที่มีช่วงที่ยูกิและอัตซึโร่ ออกมาโชว์ลีดกีต้าร์กันกลางเวทีอย่างเมามันส์ ก่อนจะกลับเข้าหลังเวทีไป
หลังจากพักเวทีไปครู่ใหญ่ ลูซิเฟอร์ก็กลับมาที่เวทีอีกครั้งพร้อมเสียงกรี๊ดดังสนั่น ในชุดเสื้อยืดสบายๆ กับเพลงที่แฟนไทยร้องตามกันได้แม่นทั้งฮอลล์อย่าง Regret และ เพลงจังหวะเบาๆอย่าง Castaways ก่อนที่จะโบกมือลากลับเข้าหลังเวทีไป แต่แฟนๆก็ยังไม่ยอมกลับ ส่งเสียงเรียก ลูซิเฟอร์ๆ จนทั้ง 5 คน กลับออกมาอีกครั้ง ในเพลงซึ้งๆอย่าง See You ที่เรียกน้ำตาจากแฟนเพลง ด้วยอารมณ์ที่ไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบลง แล้วก็เข้าหลังเวทีไปอีกครั้ง แต่แฟนๆก็ยังไม่ยอมกลับ ส่งเสียงเรียกทั้ง ลูซิเฟอร์ๆ และ อังกอร์ๆ ดังสนั่นทั่ว อินดอร์ สเตเดี้ยม
มาโกโตะ : สุดยอด สนุกไหม? สนุกไหม สุดยอด Are you ready? (แฟนๆ : เยสสสส)
ลูซิเฟอร์กลับมาด้วยเพลง Datenshi Blue เพลงเดียวกับเพลงเปิดคอนเสิร์ต ด้วยความเมามันส์ถึงขีดสุด และเสียงเชียร์ของแฟนเพลงที่ดังสนั่นไปทั้งฮอลล์ ก่อนที่จะให้ทุกคนจับมือกัน เหมือนที่สมาชิกทั้ง 5 คนจับมือกันบนเวที และนับ 1-2-3 กระโดด เสมือนการปิดฉากคอนเสิร์ตที่ทุกคนได้ร่วมสร้างความประทับใจร่วมกัน ก่อนที่มาโกโตะจะเรียกทีมงานของ U7 นำโดย คุณกฤชสณัยณ์ ชัยสิทธิ์กิติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติเมท เซเวน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ออกมาร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกันแฟนเพลง แถมยังบอกให้ทุกคนพูดชื่อเพลง Datenshi Blueeee แทนจังหวะ 1-2-3 ก่อนที่จะโบกมือลากัน เป็นการปิดฉากความยิ่งใหญ่ และความประทับใจของคอนเสิร์ต Aucifer 10th Anniversary Live in Bangkok แบบเต็มอิ่มกันถั่วหน้า พร้อมประกาศศักดา ‘J-Rock Never Die’ อย่างแท้จริง