KOREA
เจาะลึกเทรนด์… วงการเพลงเกาหลี ประจำปี 2007 ที่จะต่อเนื่องไป 2008 (2007-12-20)
ผลงานล่าสุดชุดที่ 4 ของ SG Wannabe ซึ่งถือว่าเป็นเพลงที่มียอดขายมากที่สุดแห่งปีของเกาหลี ก็จำหน่ายได้เพียง 190,000 แผ่นเท่านั้น และนี่เองเป็นสัญญาณที่ชัดเจนในทิศทางเพลงของเกาหลีจากยอดจำหน่ายที่เป็นแผ่นซีดีจับต้องได้จะกลายมาเป็นยอดจำหน่ายทางอินเตอร์เน็ตแทน เมื่อรูปแบบการจำหน่ายเปลี่ยนไป เนื้อหาก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย ในปีนี้ (2007) มีผู้จับตามองถึงการเปลี่ยนแปลงในวงการเพลงเกาหลีอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ฟังนั้นจะเริ่มหันมาฟังเพลงที่เป็นแต่ละเพลงจริงๆ แทนที่จะฟังกันเป็นอัลบั้มอย่างที่เคยทำๆกันมา ทางสำนักข่าวโชซอนอิลโบก็ได้เจาะลึกในประเด็นนี้โดยการสัมภาษณ์ทั้งผู้ผลิตงานเพลงและนักวิจารณ์จำนวน 10 คนในวงการ
◆นักร้องหญิง เทรนด์ใหม่กำลังมาแรง
Wonder Girls นักร้องกลุ่มหญิงประจำค่าย JYP Entertainment ได้รับความสำเร็จอย่างมากจากเพลง Tell Me ส่วนทางด้าน Girls Generation ของ SM Entertainment ก็เป็นอีกกลุ่มนึงที่สูสีกัน อีกทั้งยังมีนักร้องหญิงอย่าง Ivy เจ้าของบทเพลง Sonata of Temptation, Younha เจ้าของเพลง Secret No. 486 และ YangPa เพลง What is Love หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญบางคนให้ความเห็นว่าหญิงในสังคมยุคใหม่จะประสบความสำเร็จในด้านสังคม และพวกเธอก็น่าจะประสบความสำเร็จในวงการอุตสหกรรมเพลงเกาหลีได้เช่นกัน ส่วนนักวิจารณ์อีกกลุ่มนึงกล่าวว่า Wonder Girls และ Girls Generation ได้สร้างปรากฏการณ์ดึงให้ชายวัยกลางคนกลับมานั่งจ้องหน้าทีวีหรือหน้าจออินเตอร์เน็ตได้อีกครั้ง
◆ศิลปินในดวงใจหน้าใหม่
จากความสำเร็จของ BigBang และ Super Junior เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่ากลุ่มนักร้องชายหน้าใหม่ก็สามารถเติบโตขึ้นได้ ถ้านับจากเมื่อก่อนที่มีเพียง TVXQ ยึดหัวหาดเจ้าตลาดอยู่เพียงเจ้าเดียว ทางด้าน YG Family และ JYP Entertainment ก็ยังสามารถประสบความสำเร็จในการส่งกลุ่มบอยแบนด์มาสู้ในตลาดเพลงนี้ได้ ซึ่งจากที่เคยโดน SM Entertainment กินส่วนแบ่งอยู่เจ้าเดียว กับความจริงที่ว่ากลุ่มนักร้องชายหน้าใหม่เหล่านี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ทำให้ผู้คนต่างรู้ว่าวงการเพลงเกาหลีนั้นเติบโตไปข้างหน้าได้มากเพียงใด สองศิลปินที่กล่าวข้างต้นซึ่งประสบความสำเร็จในปีนี้ น่าจะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นอีกในปี 2008 จากคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญ
◆ดนตรีแนวอิสระ
ถึงแม้ว่าส่วนแบ่งในวงการเพลงเกาหลีจะลดลง แต่ก็มีเพลงดีๆจำนวนมากที่ถูกผลิตขึ้นมาเช่น Clazziquai และ House Rulez ในแนวอีเลคโทรนิคส์ Vassline ในแนวเฮวี่เมทัล Huckleberry Finn กับโมเดิร์นร็อค หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “แม้ส่วนแบ่งทางการตลาดลดลง แต่นักดนตรีก็พยายามทำตัวให้แตกต่างและโดดเด่น ผมคิดว่านี่จะเป็นเวลาทำให้วงการเพลงของเราเปลี่ยนแปลงและโตมากขึ้น”
◆จังหวะมันส์ๆ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกาหลีประสบความสำเร็จกับแนวเพลง R&B อย่างมาก โดยในแต่ละเพลงจะมีโครงสร้างคล้ายกันคือ ช่วงเริ่มเพลง พัฒนา พลิกผัน และ บทสรุป ส่วนในปีนี้เพลงที่ฮิตมากๆหลายเพลงจะเน้นการใช้เนื้อร้องแบบตอกย้ำ เช่นเพลงของ BigBang ในท่อนที่ว่า Im so sorry but I love you, ทา คอจิมัล (all lie) หรือ Wonder Girls กับท่อน Te-te-te-te-te-tell me หรือแม้จะเป็น Ivy ท่อน Hands and feet, do it, only two of us.
◆คอนเสิร์ตในโรงละครเล็กๆ
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่าการจัดแสดงคอนเสิร์ตในโรงละครเล็กๆจะสร้างกำไรให้แก่ผู้จัดได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่นบัตรคอนเสิร์ตของ Lee Juk หรือ Big Mama ที่จัดในพื้นที่เล็กๆ ขายหมดได้อย่างง่าย นั่นเป็นความหวังใหม่ของอุตสาหกรรมเพลง ซึ่งการดำเนินธุรกิจในลักษณะนี้จะคล้ายคลึงกับในช่วงปี 1990
◆รำลึกความทรงจำปี 1990
ผลงานเพลงล่าสุดของ Yangpa และ Park Jin-young ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากแสดงให้เห็นว่าแฟนๆต่างโหยหาเพลงในช่วงยุค 1990 ล่าสุดเพลงของ TOY ในชื่อชุด Thank You หลังจากหายจากวงการไปนาน 6 ปี ในอัลบั้มนี้เขาขายเพลงได้ 50,000 ชุด มันเหมือนกับว่าความรักที่พวกแฟนเพลงมีให้เขานั้นไม่ได้น้อยลงไปเลย ทางด้าน Seo Tai-ji ก็มีงานเพลงฉลองครบรอบ 15 ปี ซึ่งก็ขายหมดไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
◆พลังแห่งวีดีโอ
อาการเชื้อไวรัส Tell Me ส่งผลให้ชาวเน็ตอัพโหลดวีดีโอท่าเต้นของตนเองลงสู่อินเตอร์เน็ตจำนวนมาก บัดดี้ผู้ฟังไม่ใช่เป็นเพียงผู้ฟังอีกต่อไปแล้ว พวกเขายังเป็นคนที่ทำใหม่และส่งต่อเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเพลงนั้นๆ ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในวงการเพลงแห่งนี้