บทสรุป และความประทับใจ Shinhwa Asia Tour Live in Bangkok 2006 (2006-08-21)

       จบการแสดงอันสุดประทับใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับคอนเสิร์ต Shinhwa Asia Tour Live in Bangkok 2006 ที่ Impact Arena เมืองทองธานี เมื่อคืนวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา โอกาสที่คนไทยจะได้ชมการแสดงของ 6 หนุ่มที่อาจเรียกได้ว่าเป็นบอยแบนด์ที่ดังที่สุดของเกาหลีเลยก็ว่าได้นั้น ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นง่ายๆ แต่ก็ได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย

       เมื่อประตูฮอลล์เริ่มเปิด เหล่าแฟนคลับก็ทยอยกันเข้ามาข้างใน จากที่ลองสังเกตดูและสอบถามแล้ว มากันทั้งคนเกาหลี จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และแม้กระทั้งฟิลิปปินส์หรืออินโดนีเซียก็ยังมาให้กำลังใจกันถึงประเทศไทย

       ช่วงเวลา 1 ทุ่ม ในฮอลล์ก็เริ่มเปิด Music Video ของ 6 หนุ่มออกมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพลง Crazy, Brand New, Girl Friend (Minwoo), ภาพบรรยากาศคอนเสิร์ตที่ Seoul Stadium, How Do I Say, If you และ Once In A Lifetime หลังจากนั้นไฟบนเวทีเริ่มดับลง 4 หนุ่มขึ้นบนแท่นค่อยๆ สูงขึ้นมา พร้อมกับเพลงสรรเสริญพระบารมี แฟนต่างก็ตะโกนเรียกชินฮวากันสนั่นฮอลล์ จากนั้นก็เปิด VTR และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย 6 หนุ่มยืนบนแท่นหลังจอยักษ์กลางเวที ค่อยๆ เดินออกมาด้านหน้าด้วยชุดสีขาวทอง มาพร้อมกับเพลงแรก Perfect Man ต่อด้วยเพลง Hey, Come On! และ Hero จากนั้นทุกคนออกมายืนเรียงทักทายแฟนๆ พร้อมกันด้วยภาษาไทย และแนะนำตัวเองทีละคนเริ่มด้วย Andy, Eric, Junjin, Hyesung, Minwoo, Dongwan ไม่ต้องให้บอกเลยว่าแต่ละคนจะหล่อกันแค่ไหน มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันทุกคน แต่เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วเป็นความลงตัวที่ดูดีจริงๆ

       ต่อกันด้วยเพลง Angel หนุ่มมินอูทำท่าซารัง (เอามือยกขึ้นประกบกันเป็นรูปหัวใจเหนือศีรษะ) เป็นจังหวะ 4 ครั้งตามทำนอง แฟนๆ ก็ได้กรี๊ดกันขึ้นมาอีกระลอกใหญ่ สังเกตได้ว่าตลอดคอนเสิร์ตที่แสดง สมาชิกทั้ง 6 ของชินฮวา ต่างก็พูดคุยสอบถาม หยอกล้อเล่นกันอย่างน่ารัก และดูแลกันตลอด แสดงให้เห็นได้ถึงมิตรภาพที่มีกันอย่างเหนียวแน่น จากนั้นก็ร้องอีกหนึ่งเพลงคือเพลง 기회 (Opportunity) และพากันลงจากเวที ต่อด้วยการเปิด VTR อัลบั้มที่ 1 ถึง 8 ของชินฮวา และ Shinhwa History รวมเรื่องราวตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เริ่มการแสดงอีกครั้งด้วยเพลง Throwing it All Away ที่มีกราฟิกหลังเป็นคล้ายหิมะร่วง ทุกคนในฮอลล์ต่างโบกมือกันเป็นจังหวะ เป็นภาพที่สวยงามมากเลยทีเดียว หลังจากนั้นเพลง You’re My Everything ช็อตเด็ดของเพลงอยู่ที่จอนจินเอาตุ๊กตาหมีที่ได้จากแฟนเพลงมาเล่น และแอนดี้ก็ได้ตุ๊กตาหมีแพนด้า ทั้งสองคนร้องไป เอาหมีมาเล่นกันไปอย่างน่ารักน่าหยิก แถมท้ายเพลง 6 หนุ่มยังพูดเอาใจแฟนเพลงด้วยคำว่า “ขอบคุณครับ” และ “ผมรักคุณ” เป็นภาษาไทยด้วย และจากนั้นได้เปลี่ยนเสื้อกันอีกรอบพร้อมกับเพลง I Pray 4 U ทั้ง 6 หนุ่มยืนพูดคุยกับแฟนๆ อีกครั้ง ทั้งหมดพยายามพูดภาษาไทยทีละคน ถึงแม้จะฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ก็เข้าใจถึงความพยายามของทุกคนที่อยากจะพูดให้คนไทยเข้าใจ 

       อีก 2 เพลงต่อมาคือเพลง Wild Eye และ Only One สำหรับเพลง Wide Eye มีเก้าอี้มาเป็นส่วนประกอบด้วย ถึงช่วงเวลาพักอีกครั้ง พร้อมกับแขกรับเชิญพิเศษ เธอมีชื่อว่า 혜령 (เฮรยอง) ซึ่งออกมาร้อง 2 เพลงด้วยกัน ในเพลงแรกมีชื่อว่า 슬픔을 참는 세가지 방법 จบเพลงแรก เธอก็กล่าวทักทายเป็นภาษาไทยได้อย่างน่ารักว่า “สวัสดีครับ” (สงสัยคงจะซ้อมมากับ 6 หนุ่ม) ต่อด้วยเพลงที่สองของเธอ ในเพลง Come On Over (ของคริสตินา อากิเรล่า) ซึ่งมีเสียงทรงพลังดีทีเดียว ตัดกลับมาที่ VTR เดี่ยวของแต่ละคน เริ่มด้วย Eric, Junjin, Hyesung, Andy, Dongwan และ Minwoo และการร้องเพลงเดี่ยวของเฮซองชื่อว่า เพลง Midnight Girl (Pop Ballad Version) อยู่ในอัลบั้ม State Of The Art (Special Edition) ที่เฮซองร้องได้เพราะกินใจมาก และต่อด้วยมินอูกับเพลง Battle และ Bump ทั้งสองเพลงมินอูกับแดนเซอร์เต้นกันกระจาย ชุดของมินอูมีเสื้อกล้ามสีขาวข้างใน ก็เอะใจว่าตอนมาแสดงที่งานประกาศรางวัลของงาน Channel [v] Music Video Awards มินอูไม่ได้ใส่เสื้อข้างใน แล้วก็ได้ร้องอ๋อจนได้ เมื่อมินอูกระชากเสื้อออก แฟนๆ ได้สลบกันอีกรอบ 

       VTR Shinhwa of Asia ได้รวบรวมภาพของชินฮวาที่ไปแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ต่อด้วยเพลง 약한 남자 (Weak Man) และ Once In A Lifetime ด้วยชุดสีดำทอง แฟนๆ ต่างร้องเพลงนี้พร้อมกันจนดังทั่วทั้งฮอลล์ 6 หนุ่มมาคุยทักทายกับแฟนเพลงอีกครั้ง มีแฟนเพลงโยนกางเกงขาสั้นขึ้นไปให้บนเวที แล้วดงวานก็หยิบขึ้นมาใส่แต่ติดรองเท้าจึงนำมาทาบกับเอว เรียกเสียงกรี๊ดให้ดังขึ้นมาอีก จากนั้นเอริคพูดแนะนำให้ชม Music Video ที่เพิ่งออกมาและยังไม่ได้เปิดในประเทศไทย แต่เอามาให้ดูในคอนเสิร์ตนี้กันเป็นครั้งแรก นั่นก็คือเพลง Throw My Fist ที่ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว และเมื่อเพลงนี้จบ เพลงที่รอคอยก็มาถึง นั่นคือ Brand New เสียงกรี๊ดยังกระหึ่มทั้งฮอลล์อีกเช่นเคยกับท่ายกสะโพกของทุกคน และเอฟเฟกต์เวทีที่อลังการจริงๆ จากนั้นไฟเวทีก็ดับลง ทุกคนหายไปหลังเวที แฟนๆ ต่างพากันตะโกนเรียกชินฮวากันอีกจนกระหึ่มทั้งฮอลล์ 6 หนุ่มออกมาอังกอร์ด้วยเพลง Shooting Star และการ เซอร์ไพรส์วันเกิดของจอนจินด้วยเค้กก้อนใหญ่ เฮซองให้ทุกคนร่วมร้องเพลงวันเกิดให้จอนจิน แต่ละคนก็ร้องภาษาอังกฤษผสมภาษาเกาหลีกันไป สุดท้ายก็ให้จอนจินเป่าเค้กที่เอาลูกเชอรี่มาแทนเทียน จอนจินก็เล่นด้วย ทำท่าเป่าเทียนไปยิ้มไป แล้วก็ขอบคุณคนไทยเป็นภาษาไทยด้วย เฮซองบอกให้แฟนๆ ทั้งฮอลล์ช่วยกันกรี๊ดให้สุดเสียงอีกครั้ง เสียงของคนที่มีไม่เต็มฮอลล์กลับดังพอๆ กับมีคนอยู่แน่น คงเป็นของขวัญวันเกิดสุดพิเศษที่แฟนๆ ต่างอยากจะให้จอนจินเลยก็ว่าได้ ปิดท้ายคอนเสิร์ตวันนั้นด้วยเพลง How Do I Say ทั่วทั้งฮอลล์มีกระดาษสีขาวโปรยลงมาเหมือนหิมะ บนเวทีทั้ง 6 หนุ่มและแดนเซอร์ต่างก็ร้องเพลงไป เล่นกันไปอย่างสนุกสนาน มินอูเอาเสื้อสีส้มของแฟนคลับขึ้นมาสวมด้วย เอริคและแอนดี้ก็เอาที่คาดผมรูปหูมิคกี้เมาส์และกระต่ายที่แฟนๆ ให้มาใส่ จอนจินก็ได้ตัว J ตัวใหญ่ด้วย สุดท้ายทุกคนมายืนรียงกันข้างหน้า โค้งและกล่าวลาแฟนๆ ที่รักของพวกเขา ก่อนจะโบกมือจนกว่าจะกลับเข้าหลังเวทีไป ช่างเป็นการปิดคอนเสิร์ตที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก

       คอนเสิร์ตนี้ถือเป็นสุดยอดของที่สุดเลยก็ว่าได้ แสงสีและเอฟเฟกต์ทุกอย่างอลังการเทียบเท่าได้กับคอนเสิร์ตของชินฮวาที่เกาหลีเลยทีเดียว ทั้ง 6 หนุ่มมีการแสดงสดที่น่าประทับใจ ร้องและเต้นกันสดๆ เสียงอันทรงพลังและการร้องแร็พของทุกคน รวมไปถึงทุกคนเข้าใจแฟนเพลงและอยากจะให้แฟนๆ สนุกไปกับพวกเขาด้วย ต่างๆ เอนเตอร์เทนคนดูได้อย่างดี และเมื่อจบการแสดงแล้วแฟนคลับทุกคนต่างไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Shinhwa ถือได้ว่าเป็นวงที่สุดยอดของเกาหลีและอยู่กันยาวนานอย่างเหนียวแน่นมาจนถึง 8 ปีแล้ว

ประมวลภาพคอนเสิร์ต (ภาพโดย ปิงบุ๊ค หากนำไปใช้กรุณาลิงค์กลับมาที่เว็บไซต์)

ขอขอบคุณผู้สนับสนุน