KOREA
‘แค่มีเงินก็ No.1’ โบรเกอร์เผยเทคนิคปั่นอันดับในชาร์ตเพลง ผู้ให้บริการโต้ ‘เป็นไปได้เหรอ?’ (2012-07-26)
โบรกเกอร์มืออาชีพเผยอันเพลงในชาร์ตนั้นสามารถปั่นได้
25 กรกฏาคม ในรายการ SBS ‘Night TV Entertainment’ ทีมงานได้สัมภาษณ์กับโบรกเกอร์อาชีพที่สามารถปั่นอันดับเพลงในชาร์ตออนไลน์ได้ด้วยการ ‘กว้านซื้อ’ เพลงของศิลปินตามใบสั่ง
โบรกเกอร์คนหนึ่งเผย "เราลองผิดลองถูกกันมามาก ทำกันมาแล้วประมาณ 2 ปี" เสริม "บริษัทนั้นอยู่ในจีนที่ซึ่งไม่มีความเสี่ยง" เขากล่าวต่อ "ในชาร์ตเพลงสามารถทำให้ไต่อันดับขึ้นมาได้ ในกรณีนี้จะต้องมีค่าใช้จ่ายในระดับร้อยล้าน เฉพาะบริษัทใหญ่เท่านั้นที่ทำได้ เราคิดว่าไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้" เสริม "อันดับที่ 1 ก็เป็นไปได้ ทันทีที่ปล่อยเพลงมาถ้าเขาอยากได้อันดับที่ 1 ก็แค่อัดเงินเข้าไปซักร้อยล้านวอน ก็เป็นไปได้แล้ว แต่ว่าประเจิดประเจ้อไม่ได้ จะโดนจับได้" เขากล่าว
โบรกเกอร์เปิดเผยว่าเทคนิคที่ทำให้อันดับเพลงขึ้นชาร์ตนั้นคือการสร้าง ID ปลอมจำนวนมาก (นับหมื่น ID) และเข้าไปสั่งซื้อเพลงในช่วงดึก ในขณะที่เป็นนักร้องหน้าใหม่จะไม่สามารถทำให้ขึ้นอันดับที่ 1 ได้ในครั้งเดียว เพราะจะถูกสงสัย แต่ต้องใช้เวลานานโดยโบรกเกอร์จะปั่นเป็นระบบ เริ่มจากเดบิวอันดับอาจจะอันดับที่ 50, มินิอัลบั้มอันดับที่ 30 อัลบั้มถัดไปอันดับที่ 20 ค่อยๆไต่ขึ้นไปตามลำดับ
ในขณะที่โบรกเกอร์อีกคนเปิดเผยว่าจากการปั่นอันดับในชาร์ตเพลงนี้ทำให้เคยมีเกิร์ลกรุ๊ปคว้าอันดับที่ 1 ใน SBS ‘Ingygayo’ มาแล้วด้วยเช่นกัน เขากล่าวว่า "ถ้าจะให้อยู่ในชาร์ตอันดับประมาณ 7-8 ถึง 14-15 ราวหนึ่งเดือน จะใช้เงิน 150 ล้านวอน" พร้อมเปิดเผยถึงเหตุผลที่ต้นสังกัดหลงไหลในการทำเช่นนี้ เนื่องจากทันทีที่อันดับเพลงสูงขึ้นกำไรจากการจำหน่ายเพลงออนไลน์ก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย เขากล่าว "บริษัทไม่ต้องเครียดเลยเพราะว่าแค่เก็บเงินจากเปอร์เซ็นจากกำไรแค่นิดหน่อย ถ้าสงสัยเราไปที่บริษัทในจีนด้วยกันก็ได้"
โดยโบรกเกอร์คนหนึ่งเปิดเผยว่า แม้แต่อันดับที่ 1 ในชาร์ตคำค้นก็สามารถปั่นได้ด้วยเช่นกัน เขากล่าว "ความจริงเรื่องคำค้นนั้นราคาค่อนข้างแพง ถ้าเป็นชั่วโมงปกติ 5 ล้านวอน แต่ถ้าช่วงไพร์มไทม์จะขึ้นไปราวๆ 8 ล้านวอน" เขากล่าว
ทีมงานในเว็บเพลงออนไลน์เปิดเผยว่า "ถ้าในด้านของระบบนั้นทำไม่ได้ เราต้องใช้บัตรประชาชน แล้วก็มีจำกัดการซื้อของแต่ละ ID มีจำนวนยอดเงินที่สามารถซื้อได้ และถ้าซื้อเพลงไปแล้ว ID เดิมจะซื้อเพลงนั้นไม่ได้อีก" เสริม "เราก็งงเหมือนกันว่าพวกเขาทำได้ยังไง" เขากล่าว