KOREA
ซองชิคยอง (Sung Si Kyung) ชายหนุ่มบัลลาดสุดเหงา เผยความในใจก่อนลาไปรับใช้ชาติ (2008-06-19)
การล่ำราและคำให้สัญญาว่าจะกลับมาพบกับแฟนเพลงที่รักอีกครั้งช่างเป็นช่วงเวลาที่ลำบากใจเสียจริง กับนักร้องหนุ่มวัย 29 ปี ซองชิคยอง (Sung Si Kyung) กับการที่เขากำลังจะเตรียมตัวไปรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหารในเร็ววันนี้ ได้ปล่อยผลงานอำลาชิ้นสุดท้ายในอัลบั้มชุดที่ 6 ที่มีชื่อว่า Here in My Heart เพื่อเป็นสัญญากับแฟนๆว่าพวกเราจะได้กลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวโชซอนอิลโบ เขาดูเหนื่อยอ่อน เปิดเผยว่า “ผมอาจจะเข้าไปรับใช้ชาติราวเดือนกรกฏาคมนี้ครับ สำหรับวันนั้นยังไม่แน่นอน” ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา เขาได้สิ้นสุดการทำหน้าที่ในรายการวิทยุช่วงดึกของ MBC ในชื่อ Blue Night with Sung Si Kyung หลังจากทำหน้าที่เป็นดีเจในรายการนี้มายาวนานกว่า 2 ปี 7 เดือน
“รายการวิทยุช่วงดึกทำให้เราใกล้ชิดกับผู้ฟังมากขึ้นและมันช่วยทำให้ห่างจากโลกที่สับสน ผมเลิกจัดรายการนี้เพราะจะได้ใช้เวลาเตรียมตัวอัลบั้มใหม่รวมไปถึงคอนเสิร์ต และยังมีเรื่องสุขภาพของผมอีกด้วย” เขากล่าว นอกจากนี้เขายังมีโครงการวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการเลือกเพลงในรายการวิทยุ ที่ต้องส่งเพื่ออนุมัติจบปริญญาโท ที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเกาหลีในสาขาเอกการสื่อสารและวารสารศาสตร์อีกด้วย
“ผมไม่เคยกลัวว่าผู้คนจะลืมผม คุณเชื่อหรือไม่ ผมไม่เคยต้องการจะโด่งดังหรือเป็นซุปเปอร์สตาร์เลยครับ สิ่งที่ผมกลัวคือในเวลาสองปีนี้ผมอาจจะลืมความสามารถด้านเพลงที่ผมมีไปก็ได้ เพราะว่าผมคงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ครับ”
“ผมทุ่มเทอย่างหนักกับอัลบั้มใหม่นี้ นอนแค่ 2 ชั่วโมงต่อวัน บางครั้งก็มีความคิดแว่บเข้ามาในหัวว่า ‘เราทำงานพวกนี้ไปเพื่ออะไรกันนะ'” ค่อนข้างชัดเจนกับความรู้สึกกดดันและคิดมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ชายส่วนใหญ่มักประสบตอนก่อนที่จะเข้าไปเป็นทหาร
นักแต่งเพลงแถวหน้าของเกาหลีอย่าง ยูฮียอล คิมฮยอนชอล จองแจฮยอง รอยองชิม และ คิมกวางจิน ต่างมีส่วนร่วมในอัลบั้มนี้นักร้องหนุ่มได้แต่งเพลงให้กับตัวเองทั้งหมด 2 เพลง นั่นรวมถึงเพลงเปิดตัวอย่าง Good Bye, My Love ที่เขาได้ยูฮียอลมาร่วมงานกันในเพลงนี้ ถึงแม้ซองชีคยองจะถูกมองว่าสามารถทำงานบันเทิงได้หลากหลาย แต่ท้ายที่สุดเขาก็ให้ความสำคัญกับงานเพลงเหนือสิ่งอื่นใด
เพลงในอัลบั้มใหม่นี้เต็มไปด้วยความเหงา คล้ายกับไฟส่องถนนยามหน้าหนาวที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ “ผมค่อนข้างถนัดในการถ่ายทอดความรู้สึกผ่านทางเนื้อเพลงและท่วงทำนอง” เขากล่าว “ผมจะต้องร้องเพลงบัลลาดความยาว 3.30 นาที ซึ่งมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ในเพลงนั้นมันจะต้องมีความรู้สึกของการลาจาก ซึ่งสะท้อนความเป็นตัวผมในขณะนี้”
ก่อนเริ่มสัมภาษณ์เขาร้องขอให้นักข่าวไม่ถามเกี่ยวกับการไปรับใช้ชาติมากนัก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะวกกลับมาเรื่องนั้นเสียเอง ในคำพูดที่ค่อนข้างตรงประเด็น “ถ้าผมมีเครื่องเล่นเพลง คีย์บอร์ด และหนังสือ แลกกับการอยู่ในคุกเป็นเวลา 2 ปี มันคงจะดีเสียกว่า” เขากล่าว