KOREA
‘Sisa Magazine 2580’ เปิดสกู๊ปเจาะลึกกระแส ‘เกาหลีฟีเวอร์’ ในประเทศไทย (2009-09-07)
6 กันยายน 2552 เวลา 22.45 น. รายการ ‘Sisa Magazine 2580’ ได้เปิดตัวสกู๊ปพิเศษกระแสเกาหลีฟีเวอร์ในประเทศไทย (คลื่นฮันรยู/Hallyu Wave) โดยทีมงานรายการได้เดินทางมาถ่ายทำสกู๊ปนี้ในประเทศไทยเมื่อช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้ครอบคลุมในเรื่องเรื่องราวต่างๆ ที่บรรดาวัยรุ่นไทยได้ให้ความสนใจต่อกระแสต่างๆทั้งตัวศิลปินดารา นักร้องเกาหลี เพลง ละคร และภาษา ไว้อย่างครบถ้วนเลยทีเดียว
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา บอยแบนด์จากเกาหลี 7 หนุ่ม ‘2PM’ ได้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเปิดตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์และถ่ายโฆษณาขนมยี่ห้อหนึ่ง
โดยทางด้าน คุณสุรเดช นภาพฤกษ์ชาติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจบริษัท สยามร่วมมิตร จำกัด เปิดเผยกับรายการถึงกระแสเกาหลีฟีเวอร์ในประเทศไทยว่า “เรื่องของการแสดงหรืออะไรต่างๆของศิลปินของเกาหลีรวมถึงการเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นนั้นค่อนข้างจะดีในแง่ของคนไทยครับ คือผมก็มองว่าพวกเขาทำอะไรเต็มที่มากๆและมีมิตรภาพที่สนิมสนมกันมากครับ” เขากล่าว ในขณะเดียวกันนักเรียนสาววัย 16 ปีที่มารอพบศิลปินในดวงใจ เปิดเผยกับรายการว่า “มาจากต่างจังหวัดมารอตั้งแต่ตี 5 เลยค่ะ มาดูนิชคุณค่ะ ไม่ได้เจอก็คงเสียใจค่ะ” เธอกล่าว
ย้อนกลับไปเมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ สยามสแควร์ ทางรายการได้เปิดเผยถึงความฮ็อตของศิลปินเกาหลีจากการให้สัมภาษณ์โดยเด็กนักเรียนไทย โดยทั้งหมดนั้นต่างก็ล้วนมีของที่เป็นศิลปินที่ตนชื่นชอบมาอวดกันอย่างเต็มที่พร้อมเผยถึง Wonder Girls กล่าว “น่ารักค่ะ เต้นก็เก่ง แล้วก็มีเสน่ห์ด้วยค่ะ” เมื่อมองไปที่โทรศัพท์มือถือพวกเธอ ก็มีเพลงเกาหลีบรรจุอยู่ไว้เต็มเช่นกัน อาทิ เพลง ‘Sorry, Sorry’ ของ Super Junior, ‘Nobody’ ของ Wonder Girls และ ‘Gee’ ของ โซนยอชิแด (So Nyeo Shi Dae)
เมื่อถูกถามว่าที่โรงเรียนมีเพื่อนๆชอบ ซุปเปอร์จูเนียร์ มากไหม พวกเธอตอบ “เยอะมากค่ะ มีอาจารย์ด้วยค่ะ อาจารย์ชอบคังอินมากเลยค่ะ ชอบพูดถึงให้เด็กฟังด้วยค่ะ” และกับคำถามที่ว่าเพื่อนๆนั้นรู้ภาษาเกาหลีกันมากเพียงใด พวกเธอตอบ “เยอะมากค่ะ” โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการชมคอนเสิร์ตของศิลปินที่ชื่นชอบ บรรดาเด็กสาว เผย “อย่างที่ผ่านมาเคยไปดูคอนเสิร์ตของดงบังชินกิค่ะ แพงสุดก็ 4500 บาทค่ะ แต่ว่าแคสฯก็สู้ค่ะ” เสริม “อย่างเงินที่ได้มาก็พวกค่าขนมค่ะ เก็บเป็นรายสัปดาห์ค่ะ” เธอกล่าว
‘Sisa Magazine 2580’ ยังได้ไปเจาะลึกยอดขายอัลบั้มเพลงเกาหลีกับร้านค้าในสยามแห่งหนึ่งด้วย ทางด้านผู้ขายเปิดเผยว่า “ยอดขายเพลงเกาหลีเยอะมากครับ ประมาณ 50-60% เลยครับ” เสริม “ถ้าให้เทียบกับยอดจำหน่ายระหว่างเพลงญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆ ค่อนข้างแรงกว่าเยอะเลยครับ” เขากล่าว
โดยภายในสัปดาห์นั้นที่สยามพารากอน ก็ยังได้มีการจัดกิจกรรมงานญี่ปุ่นอย่าง ‘Japan Festa in Bangkok 2009’ ซึ่งเป็นงานเพื่อชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามจากการเปิดเผยของ ‘Sisa Magazine 2580’ กล่าวว่าเพลงของบรรดาศิลปินจากเกาหลีนั้นได้รับความนิยมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะบรรดาแฟนคลับที่ได้ร้องเพลงตามกันอย่างพร้อมเพรียง ส่วนทางด้านไฮไลท์หลักของกิจกรรมนั้นคือการเต้นคัฟเวอร์ โดยหนึ่งในนั้นมีการเต้นเป็นศิลปิน ซุปเปอร์จูเนียร์
ทางด้านวัยรุ่นที่ได้เต้นคัฟเวอร์เป็นศิลปินที่พวกเธอชื่นชอบ มิน วัย 18 ปี เปิดเผยว่า “ซ้อมทุกวันเสาร์ค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงปิดเทอมก็จะซ้อมประมาณสัปดาห์ละ 3 วันค่ะ เวลาบ่ายโมงถึงเย็นๆค่ำๆค่ะ” พร้อมทั้งเปิดเผยว่า “มีบรรดาเด็กๆให้ความสนใจเต้นกันหลายทีมมากเลยค่ะ นับไม่ถ้วนเลย ประมาณ 30 กว่าทีมค่ะ” พวกเธอกล่าว ซึ่งเมื่อถึงช่วงที่บรรดาวัยรุ่นขึ้นเต้นคัฟเวอร์ขึ้นแสดงนั้นพวกเขาและเธอก็ได้รับเสียงเชียร์อย่างดังกระหื่มจากแฟนๆเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ‘Sisa Magazine 2580’ ยังได้สอบถามความรู้สึกเกี่ยวกับคดีความของดงบังชินกิกับมุมมองจากวัยรุ่นไทยที่ได้คัฟเวอร์เป็นพวกเขา เปิดเผยว่า “พวกเราชอบพวกพี่(ดงบังชินกิ)จริงๆ ถ้าพวกพี่ทั้ง 5 คนแยกกันออกไปก็คงไม่ใช่ดงบังชินกิ แล้วทุกคนก็รักดงบังชินกิครับ รับรองว่าไม่อยากให้พวกพี่แยกกันแน่นอน ขอให้สู้ๆกันต่อไปนะครับ” เขาเผยความรู้สึก
โดยเฉพาะกับการเปิดบ้านแฟนคลับผู้ชื่นชอบศิลปินเกาหลีอย่าง โซนยอชิแด ซึ่งก็ได้เผยให้เห็นถึงความหลงไหลโดยมีการสะสมสิ่งของต่างๆไม่ว่าจะเป็นซีดี นิตยสาร รูปภาพ คลิปวีดีโอ ไว้เป็นจำนวนมาก เมื่อทางด้านพ่อแม่ของแฟนคลับหนุ่มถูกถามว่ารู้สึกกังวลบ้างหรือไม่ที่ลูกชื่นชอบศิลปินเกาหลี พวกเขาได้เปิดเผยว่า “ไม่กังวลค่ะ ถ้าเขายังสามารถดูแลตัวเองได้ไม่มีปัญหาค่ะ อย่าง ‘Nobody’ ของ Wonder Girls หรือ เกิร์ลเจน (โซนยอชิแด) พ่อแม่เองดูแล้วก็ยังรู้สึกดีเลยค่ะ” พวกเขากล่าว
หากมองถึงรายการบันเทิงและละครเกาหลีในประเทศไทยต่างก็ได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน แม่บ้านวัย 54 ปีเปิดเผยว่า “ส่วนใหญ่เมืองไทยตอนนี้ติดละครเกาหลีมากกว่าละครไทยอีกค่ะ” สำหรับละครเกาหลีที่ได้รับความนิยมในไทย ไม่ว่าจะเป็น แดจังกึม จูมง และ อีซาน ต่างด้วยเป็นละครที่เปิดประตูให้ชาวไทยได้รู้จักประเทศเกาหลีมากยิ่งขึ้นด้วยกันแทบทั้งสิ้น
เมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในปัจจุบันชาวไทยให้ความสนใจในประเทศเกาหลีมากยิ่งขึ้นจากการเปิดเผยของผู้คนกล่าว “อยากไปเกาหลีครับ เพราะชอบดาราเกาหลี ชอบรายการทีวีด้วยครับ” เมื่อถูกถามว่าไปเกาหลีแล้วจะไปทำอะไร “ทานอาหารอย่างแรกเลยครับ เห็นบอกว่าเนื้อย่างเกาหลี (บูลโกกิ) ที่ห่อผักแล้วทานกับกิมจิน่าจะอร่อยครับ” ในขณะที่อีกคนหนึ่งกล่าว “ดูเหมือนเป็นประเทศในฝันเลยค่ะ เวลาดูในละครเกาหลีสวยดีค่ะ” เธอกล่าว
โดยเฉพาะกับประเด็นที่ว่ากระแสความนิยมในเกาหลีฟีเวอร์ในไทยประเทศไทยนั้นจะยาวนานไปอีกเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับคลื่นความนิยมญี่ปุ่นหรือไต้หวันที่เคยผ่านเข้ามาในประเทศไทยก่อนหน้านี้ ทาง ‘Sisa Magazine 2580’ ก็ได้สัมภาษณ์กับผู้คนที่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงเกาหลีอีกด้วยเช่นกัน
คุณพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ผู้บริหารของ Sony Music เปิดเผย “ผมคิดว่าน่าจะอยู่ได้ยาวนานกว่าที่ผ่านๆมานะครับ โดยส่วนตัวผมว่าสังกัดเพลงของเกาหลีได้เรียนรู้คลื่นญี่ปุ่นหรือคลื่นไต้หวันจากที่ผ่านๆมา อย่าง 2PM ก็ด้วยการนำเอาศิลปินชาวไทยเข้าไปรวมเป็นหนึ่งในศิลปินเกาหลี ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ฉลาดมากครับ”
อย่างไรก็ตามในอีกด้านหนึ่งเปิดเผยว่าคลื่นเกาหลีนั้นน่าจะถึงจุดอิ่มตัวได้ คุณจุรีรัตน์ ชัยพรหมประสิทธิ์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร ASTA เปิดเผยว่า “ถ้าเทียบกับละครเกาหลีเนี่ย หลังๆเราเริ่มจับทางของเกาหลีได้ ว่ามันจะต้องมีเกร็ดอะไรเล็กๆที่สามารถทำให้เราเดาได้ อย่างเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวแม่สะใภ้อะไรแบบนี้มันก็จะทำให้เราเดาได้ค่ะ ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็จะทำให้ดรอปลงไปค่ะ” เธอกล่าว
คุณสุรชัย เสนศรี กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจจีเอ็มเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “มองในแง่ของธุรกิจเพลง ผมว่าการที่มีเพลงเกาหลีในเมืองไทยก็ทำให้ค่ายเพลงอย่างแกรมมี่หรือค่ายเพลงอื่นๆได้มองเห็นตัวอย่างการพัฒนาไอดอลในเกาหลี นำมาเป็นแบบอย่างในการศึกษาแล้วก็พัฒนาศิลปินไทย" เขากล่าวปิดท้ายด้วยมุมมองในแง่บวก