KOREA
ซองยูริ (Sung Yuri) เปิดใจย้อนอดีตช่วงเป็น Fin.K.L พร้อมเผยความลำบากในเส้นทางนักแสดง (2009-10-15)
14 ตุลาคม 2552 ในรายการ MBC ‘Golden Fishery’ ซองยูริ เปิดเผยว่า "ในระหว่างที่ฉันเดินอยู่บนถนนก็เจอกับผู้จัดการคนหนึ่งยื่นข้อเสนอให้ฉันไปเคสติ้งค่ะ" เสริม "เขาบอกว่าจะทำเกิร์ลกรุ๊ปขึ้นมาเทียบกับ SES ซึ่งหลังจากนั้นมันทำให้ฉันตัดสินใจมาที่บริษัทค่ะ" เธอกล่าว
กล่าวต่อ "เพื่อนๆฉันบอกว่า ‘ไม่ใช่พวกต้มตุ๋นแน่เหรอ?’ และด้วยความสงสัยฉันก็เลยโทรหาเลยค่ะ ปรากฏว่าเป็นต้นสังกัดของ Sechs Kies ค่ะ และที่ฉันไปสำนักงานเพราะไม่ได้เพื่อที่จะเป็นนักร้องหรอกค่ะ แต่ฉันอยากไปเจอกับ Sechs Kies ก็เท่านั้นเองค่ะ" เธอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
ซองยูริ กล่าว "ตอนออดิชั่นฉันร้องเพลง SES ค่ะ" เธอสารภาพ ด้วยเหตุนี้เอง คังโฮดงกล่าว "ช่วยรำลึกความทรงจำตอนนั้นให้พวกเราดูหน่อยสิครับ" แต่ซองยูริตอบ "ไม่รู้เลยเหรอคะ? ว่าเราเป็นนักร้องลิ้บซิ้ง…" หลังจากเธอพูดจบห้องส่งก็หัวเราะกันครืน เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความจริงใจของ ซองยูริ ที่เฉิดฉายรัศมีออกมาอย่างเต็มตัว
อีกทั้งเธอยังกล่าว "ตอนนั้นเริ่มด้วย อกจูยอน, อีจิน และตามด้วยฉัน ส่วนอีฮโยริเป็นคนสุดท้ายที่ถูกเลือกให้เข้ากลุ่มค่ะ" เสริม "ครั้งแรกตอนที่เห็น อีฮโยริ เดินเข้ามาในบริษัท เธอมาแบบเสื้อผ้าสไตล์ของฮิพฮอพเกิร์ลเลยค่ะแต่ว่ากลับที่มีใบหน้าแบบใสซื่อบริสุทธิ์มากๆ คือจริงๆที่เราฟอร์มทีม Fin.K.L มาก็เพื่อประกบกับ S.E.S ค่ะ แล้วตอนที่พวกเรามีกันแค่ 3 คนความรู้สึกมันบอกเลยว่าไม่ใช่ค่ะ มันรู้สึกกังวล แต่ทันทีที่เราได้อีฮโยริมาร่วมทีมเรากลับรู้สึกโล่งใจขึ้นเลยค่ะ" เธอกล่าว
กล่าวต่อ "แต่ว่าพอ อีฮโยริ ได้ดูประวัติที่มีรูปภาพของพวกเรา 3 คน ตอนแรกเธอไม่ยอมเข้าร่วมกลุ่มด้วยค่ะ" เธอกล่าวพร้อมหัวเราะ
ซองยูริกล่าวต่อ "Fin.K.L มีเป้าหมายในภาพลักษณ์แบบขาวบริสุทธิ์ค่ะ" เธอกล่าวว่าตอนอยู่ในบริษัทพวกเธอถูกถามว่าชอบสีอะไรกัน และก็ตอบไปว่า ‘ชอบสีขาว’ ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้หลังจากนั้น Fin.K.L เลยมีภาพลักษณ์ในแบบขาวบริสุทธิ์ ซองยูริ กล่าว "จริงๆเดิมทีพวกเราวางตัวให้มีบุคลิกแบบผู้ชายๆค่ะ" เธอกล่าวสารภาพเรื่องราวความจริงทั้งหมด อีกทั้ง "พวกเรายังเป็นนักร้องลิบซิ้งด้วยค่ะ" อีกด้วยเช่นกัน
ซองยูริ ยังเปิดเผยเรื่องราวต่างๆที่ตรงไปตรงมาอย่างต่อเนื่อง เธอกล่าว "ตอนที่ Fin.K.L ได้รับความนิยมแต่พวกเรากลับไม่รู้สึกสนุกเลยค่ะ เพราะพวกเรา ‘ไม่ได้เป็นนักร้องที่ใช้ความสามารถในด้านการร้องเพลง’ และเพราะเหตุนี้ทำให้เราไม่มีความมั่นใจเลยค่ะ" เสริม "เราคิดว่าพวกเราเป็นคนบันเทิงที่ไม่มีความสามารถอะไรเลย ความนิยมนั้นมันอยู่ไม่ได้นาน แต่ความไม่สบายใจนั้นจะยังคงอยู่ต่อไปค่ะ” เธอกล่าวถึงเรื่องราวความลำบากใจในเวลานั้น
นอกจากเรื่องราวความหลังตอนเมื่ออยู่ Fin.K.L ที่ได้เปิดใจอย่างหมดเปลือกแล้ว เธอก็ยังได้พูดถึงเรื่องราวการผันตัวเองมารับอาชีพนักแสดงอีกด้วยเช่นกัน
ซองยูริ กล่าว “ตอนฉันรับงานแสดงเป็นครั้งแรก (Bad Girls / 나쁜 여자들 ปี 2545) ก็แน่นอนค่ะความสามารถคงจะยังไม่พร้อม ซึ่งนั่นมันทำให้ฉันได้รับเสียงวิจารณ์เยอะมากค่ะ” เสริม “สถานการณ์ในตอนนั้น ฉันได้รับบทเสนอเข้ามาให้เป็นหนึ่งในตัวละครหลักค่ะ ซึ่งการที่จะปฏิเสธไปฉันก็รู้สึกเสียดายค่ะ ตอนนั้นรู้สึกฮึกเหิมมากๆ” เธอกล่าวต่อ “การที่ฉันมีหลายอย่างที่ยังบกพร่องอยู่ มันทำให้ฉันลดเวลานอนเพียง 1 ชั่วโมงค่ะ แล้วฉันก็ใช้เวลามาเรียนการแสดง ซึ่งมันเป็นการใช้ชีวิตของฉันในช่วงนั้นค่ะ”
เธอกล่าวต่อ “แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกท้อและเสียใจมากที่สุด ไม่ใช่ตอนที่ฉันถูกวิจารณ์ในเรื่องการแสดงนะคะ แต่มันคือคำพูดที่คนบอกฉันว่า ‘ฉันไม่มีความพยายาม’ รวมถึงคำวิจารณ์แรงๆอีกมากเลยค่ะ เพราะเช่นนั้นฉันก็รู้แล้วว่าฉันคงไม่ไหวจริงๆกับการแสดง และมันเลยทำให้ฉันหายไปจากงานแสดงอยู่นานพอสมควรค่ะ” เธอกล่าวพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา
ซองยูริกล่าว “ตอนละครเรื่อง ‘Love of Thousands Years (천년지애)’ ในตอนนั้นมีเวลาเตรียมตัวสั้นมากค่ะ ทำให้ฉันใช้เวลา 7~8 ชั่วโมง ในการเรียนศิลปะการต่อสู้และการขี่ม้า แล้วหลังจากนั้นถึงค่อยมาเข้าคอร์สเรียนการแสดงค่ะ สมมติว่า ถ้ามีโอกาสให้ฉันได้ไตร่ตรองอย่างจริงจัง ฉันจะเลือกเรียกการแสดงก่อนอื่นเลยค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็คชั่นหรือฉากขี่ม้า มันใช้ตัวแสดงแทนได้ค่ะ แต่ถ้าการแสดงแล้วไม่มีตัวแสดงแทนค่ะ แต่ว่าในตอนนั้นฉันไม่ได้ทุ่มให้การแสดงค่ะ แต่ไปทุ่มให้กับฉากแอ็คชั่นต่างๆมากกว่า” เธอกล่าวพร้อมความเสียดาย
เธอกล่าว “ล่าสุดกับผลงานการแสดงของฉัน ฉันคิดกับตัวเองว่า ‘เรามาลองกันสักตั้งเป็นครั้งสุดท้ายละกัน! ทำให้ดีที่สุดๆไปเลย ถ้ายังไม่ได้รับการยอมรับก็เลิกรากันไปเลย’ ถึงแม้ว่าเป็นการกลับมารับงานอีกครั้งหลังจากหายไปนาน แต่เหมือนว่าฉันได้รู้แจ้งแล้วค่ะ ฉันพยายามสุดตัว และจนถึงตอนนี้ฉันคิดว่าตัวเองสามารถกลับมายืนขึ้นได้อีกครั้งแล้วค่ะ ฉันรู้สึกอยากจะขอบคุณ ที่ทุกๆวันนี้ฉันสามารถทำงานได้ด้วยความสนุกสนานค่ะ” เธอกล่าวปิดท้าย