คาร่า(KARA)-โซชิ(SNSD) แท็คทีม K-POP ลุยญี่ปุ่นคว้า No.1-2 หน้าใหม่โกยรายได้รวม 2,180 ล้านเยน (784 ล้านบาท) ภายใน 3-4 เดือน (2010-12-20)

‘ชินฮันรยู (คลื่นเกาหลีใหม่)’ คาร่า (KARA) และ โซนยอชิแด (So Nyeo Shi Dae) นั่งแท่นอันดับที่ 1,2 ในยอดขายของศิลปินหน้าใหม่ในประเทศญี่ปุ่น

20 ธันวาคม 2553 ออริกอนเปิดเผยยอดจำหน่ายผลงานเพลงของศิลปินหน้าใหม่ประจำปี 2553 โดย คาร่า และ โซนยอชิแด สามารถคว้าอันดับที่ 1,2 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลัง K-POP ได้เป็นอย่างดี

ออริกอนเผย “ชาร์ตปลายปีในหมวดหมู่ของศิลปินหน้าใหม่ อันดับที่ 1 ตกเป็นของ คาร่า, อันดับที่ 2 ตกเป็นของ โซนยอชิแด พวกเธอต่างล้วนเป็นศิลปิน K-POP” โดยผลสรุปของชาร์ตนี้เกิดจากการรวบรวมยอดจำหน่าย ซิงเกิ้ล อัลบั้ม มิวสิคDVD เพลงบลูเรย์ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2552 ถึง 20 ธันวาคม 2553″

กล่าวต่อ “คาร่า เดบิวเมื่อเดือนสิงหาคมพร้อมกับท่าเต้นส่ายก้นบรรลือโลกในเพลง ‘Mister’ ตามด้วย ‘Jumping’ รวม 2 ซิงเกิ้ล, อัลบั้ม 5 ชุด, DVD 1 ชุด รวมทั้งหมดเป็น 8 ผลงาน ทำยอดจำหน่ายได้ 1,300 ล้านเยน (468 ล้านบาท)”

อีกทั้ง “โซนยอชิแด เดบิวเดือนกันยายนพร้อมกับเรียวขายาวสวยในท่าเต้นที่พร้อมเพรียงในเพลง ‘Genie’ ตามด้วย ‘Gee’ รวม 2 ซิงเกิ้ล และ DVD 1 ชุด กับ อัลบั้ม 6 ชุด รวมทั้งหมด 9 ผลงาน ทำยอดจำหน่ายไปได้ 880 ล้านเยน (317 ล้านบาท)”

ออริกอน ยังเปิดเผยข้อมูลสรุปกล่าวว่า คาร่า ทำยอดจำหน่ายรวมได้ทั้งหมด 493,000 แผ่น คิดเป็นเงิน 1,300 ล้านเยน, โซนยอชิแด ทำยอดจำหน่ายได้ 380,000 แผ่น คิดเป็น 880 ล้านเยน คว้าอันดับที่ 1 และ 2 ในหมวดหมู่ของศิลปินหน้าใหม่ ในขณะที่ศิลปินหน้าใหม่ของญี่ปุ่นอย่าง WEAVER ที่คว้าอันดับที่ 3 ทำยอด 83,000 แผ่น คิดเป็น 130 ล้านเยน

โดยเฉพาะการที่คาร่าและโซนยอชิแดที่เพิ่งจะเดบิวในตลาดญี่ปุ่นได้เพียง 3-4 เดือนก็ยิ่งทำให้ทุกฝ่ายต้างช็อคกับสถิติในครั้งนี้กันอย่างถ้วนหน้าเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าพวกเธอจะมีรายได้มากในประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้าเทียบกับรายได้ในเกาหลีนั้นยังคงมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับในเกาหลีนั้นการทำเพลงรวมถึงการจัดการศิลปินนั้นจะใช้เพียงต้นสังกัดเป็นคนดำเนินการทั้งหมด แต่ในญี่ปุ่นทุกส่วนจะต้องแยกกันดูแลเฉพาะด้าน ซึ่งนี่เองทำให้ส่วนแบ่งรายได้ของพวกเธอต้องแตกต่างไปจากประเทศบ้านเกิด ไม่แต่เพียงเท่านั้น ผู้คนในวงการต่างมองว่าการที่ทั้งคาร่าและโซนยอชิแดซึ่งเป็นเพียงศิลปินหน้าใหม่ก็ยิ่งส่งผลทำให้พวกเธอได้รับส่วนแบ่งน้อยลงมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ทว่าถ้าในปีหน้าพวกเธอยังสามารถสร้างกระแสการตอบรับได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ต้นสังกัดของพวกเธอในเกาหลีก็อาจจะได้รับส่วนแบ่งกำไรมากขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน