KOREA
เยซอง (Yesung) แห่ง ซุปเปอร์จูเนียร์ เผย ‘เมื่อก่อนไม่ชอบที่พ่อต่อต้านอาชีพนักร้อง’ ทั้งน้ำตา (2011-08-31)
30 สิงหาคม ในรายการ SBS ‘Strong Heart’ เยซอง เปิดเผยว่า "ผยเคยไม่ค่อยชอบพ่อของตัวเองเท่าไหร่ครับ" เขาเปิดเผยว่าในอดีตเขาไม่ค่อยสนิทกับพ่อของตัวเองพร้อมเปิดเผยเรื่องราว
เยซอง กล่าว "พ่อผมเข้มงวดมากจนบางครั้งผมคิดกับตัวเองว่า ‘เรามีความรักต่อพ่อบ้างหรือเปล่า’ ด้วยครับ" เสริม "ความจริงแล้วพ่อผมมีหน้าตาคล้ายๆกับรุ่นพี่ชเวมินซู ทำให้ผมไม่ดูละครเรื่อง ‘Sandglass (모래시계) เลยด้วยครับ"
กล่าวต่อ "เพื่อทำตามความฝันของผมตอนที่ผมต้องเดินทางมากรุงโซล พ่อของผมต่อต้านมากเลยครับ ถึงขั้นไม่ได้ฟังเพลงเลยครับ" เขากล่าวว่าในอดีตไม่สนิทกับพ่อเพราะไม่ค่อยได้พูดคุยกัน โดยเฉพาะอารมณ์ที่พรั่งพรูก็ทำให้เยซองต้องร้องไห้ออกมา
ในระหว่างนั้นเองเยซองที่ได้เดบิวเป็นซุปเปอร์จูเนียร์และเวลาผ่านไปประมาณ 3 ปี ในตอนนั้นมือถือของมีสายที่ไม่ได้รับมากกว่า 50 สายจากแม่ของเขาเอง เยซอง เผย "ผมโทรกลับไปแล้วแม่บอกว่าพ่อผมบาดเจ็บมากและจะต้องเปลี่ยนถ่ายเลือด รีบกลับมาบ้านเร็วๆ" ซึ่งในระหว่างที่เขากำลังถ่ายรายการ เยซองก็ได้ตัดสินใจลงไปบ้านเกิดชอนอัน โดยในระหว่างทางเขาก็คิดถึงเรื่องราวต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาไม่ค่อยได้คุยกับพ่อ หรือเรื่องราวเขาพยายามหลบเลี่ยงพ่อของตัวเองตลอด
เยซอง กล่าว "พอผมไปถึงชอนอันผมก็ได้รู้ว่านิ้ว 3 นิ้วของพ่อผมติดเข้าไปในเครื่องจักรครับเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงมาก" เสริม "ตอนนั้นเป็นช่วงดึกมากซึ่งไม่มีคน แม้แต่เสียงร้องของเขาก็ยังไม่มีใครได้ยินเลยครับ พ่อผมนิ้วไปติดอยู่ในเครื่องจักรแบบนั้นอยู่เป็นชั่วโมงเลยครับ ผมเห็นภาพนั้นแล้วมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากๆครับ" เขากล่าว
หลังจากในครั้งนั้นเยซองก็ให้คำมั่นกับตัวเองว่าเขาจะต้องใช้เวลาร่วมกับพ่อแม่ให้มากที่สุดและจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
เยซองกล่าว "เนื่องจากพ่อผมผมก็ไม่ค่อยดีทำให้การหางานใหม่นั้นเป็นเรื่องยากครับ" เสริม "ผมพยายามทำงานให้หนักมากขึ้นจนพวกเราได้ย้ายเข้ามาอยู่ในโซล ผมได้ทำร้านกาแฟเพื่อให้พ่อแม่ได้ลนิหสนร่วมกับน้องชายของผมด้วยครับ” เขากล่าว
เมื่อพูดถึงอาการพ่อของเขา เยซอง กล่าว “เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้ตอนนี้นิ้วของพ่อผมยังงอไม่ค่อยได้ครับ ทำงานลำบากหน่อยครับ” เสริม “ตอนนี้ผมพูดคุยกับพ่อมากขึ้นแล้วเขาเป็นเหมือนพี่ชายของผมเลยครับ ตอนเด็กๆผมไม่รู้จักพ่อของผมเลย แต่ตอนนี้ผมได้รู้แล้วว่าพ่อของผมก็เหมือนเด็กๆที่ชอบทำตัวน่ารักๆน่ะครับ ผมมีความสุขมากเลย” เขากล่าวท่ามกลางความประทับใจ
สุดท้ายคังโฮดงให้กล่าวถึงพ่อของเขา “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้มีโอกาสที่จะพูดอะไรจริงจังแบบนี้กับพ่อบ่อยนักครับ แม้ว่าตอนนี้ผมจะยังเป็นลูกที่ยังไม่ดีพร้อม แต่ในอนาคตเพื่อครอบครัว เพื่อพ่อผมจะตั้งใจใช้ชีวิตต่อไปครับ ผมจะเป็นลูกที่ทำให้พ่อภูมิใจครับ ผมรักพ่อ” เขากล่าว