Super Junior Happy เปิดใจมอบความสุขให้กับแฟนๆ ฉลองเดบิวเข้าสู่ปีที่ 3 (2008-06-15)

ซุปเปอร์จูเนียร์ (Super Junior) ได้เขย่าวงการนักร้องกลุ่มอีกครั้งด้วยการเปิดตัวกลุ่มย่อยใหม่เป็นกลุ่มที่ 4 ซึ่งมีชื่อว่า Super Junior Happy

หลังจากเปิดตัวสู่วงการเพลงเกาหลีเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2005 พวกเขาก็ได้มีการเปิดตัวกลุ่มย่อยใหม่ๆมาแล้วถึง 3 กลุ่มประกอบไปด้วย Super Junior KRY, Super Junior T และ Super Junior M

โดยในคราวนี้พวกเขาต้องการสานฝันในบางส่วนของวงการเพลงที่ขาดไปจากการหายไปของวง COOL และ Koyote ผ่านทางเนื้อเพลงและดนตรีที่เบาสบายซึ่งมากับท่าเต้นเบาๆอันแสนสุขกับเพลง Cooking King (Cooking? Cooking!) โดยพวกเขายังคงกล่าวย้ำอย่างหนักแน่นว่า ที่พวกเขาออกกลุ่มย่อยนี้ไม่ได้เป็นเพราะกลุ่มใหญ่ที่มีสมาชิกทั้ง 13 คนจะทำแนวเพลงนี้ไม่ได้

“เหตุผลที่เรามีกลุ่มย่อยก็เพื่อปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ และแฟนๆในยุคเดิมที่ชอบสไตล์แบบที่ใช้ในอัลบั้มใหม่นี้ก็จะสามารถสนุกไปกับมันได้ด้วย ซึ่งเราก็ไม่ได้หมายความว่าสไตล์ใหม่ๆแบบนี้จะนำไปใช้กับพวกเราทั้ง 13 คน ไม่ได้นะครับ พวกเราแค่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในบรรยากาศที่สดใสซึ่งคล้ายคลึงกับวงรุ่นพี่อย่าง COOL และ Koyote ครับ”

เพลงของพวกเขารวมไปถึงรอยยิ้ม อันเป็นที่มาของชื่อกลุ่ม Happy “จริงๆแล้ว พวกเราได้รับความเห็นจากแฟนๆทั้งเยาะเย้ยและชมเชยพวกเราอย่างละครึ่งๆเลยครับ เช่น ‘คุณจะสามารถเห็น Super Junior ได้ตลอดเวลาในทันทีที่คุณเปิดทีวี มันก็เหมือนเราเปิดก็อกและมีน้ำไหลออกมานั่นแหละ’ แต่เราไม่ใส่ใจนะครับ เพราะนี่มันหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรากับแฟนๆครับ พวกเราก็หวังว่า Super Junior Happy จะเป็นเหมือนชื่อของมันและทำให้เราได้ส่งผ่านความสุข สนุกสนาน และให้รอยยิ้มกับพวกคุณทุกคนครับ”

ปีนี้เข้าสู่เป็นปีที่ 3 ตั้งแต่ Super Junior เปิดตัวสู่วงการเพลงแล้ว แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากพูดพร้อมกับท่าทางที่ดูตื่นเต้นว่า “พวกคุณเดบิวมาเป็นเวลาแค่นี้เองเหรอ” นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาปรากฏตัวตามรายการบันเทิงจำนวนมากนับตั้งแต่เดบิว กิจกรรมพวกนี้เหมือนเป็นดาบสองคมของ Super Junior ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนว่าจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนได้ในหลากหลายทางและมิติ

“นี่เป็นข้อดีจากที่เราเป็นส่วนหนึ่งในรายการทีวีต่างๆอยู่เกือบทุกๆวันครับ แต่ถ้ามองจากอีกมุมหนึ่งมันก็มีข้อบกพร่องครับ ซึ่งมันก็เหมือนกับคุณกินอาหารชนิดเดิมๆทุกวัน ทำให้มีผู้ชมบางคนพูดเชิงติดตลกกับพวกเราว่า เราควรจะหยุดการทำกิจกรรมซักทีครับ (หัวเราะ)”