KOREA
[บทสัมภาษณ์] ยุนอา (Yoon Ah) เส้นทางสู่ความสำเร็จ การทำงานหนัก และความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ (2008-06-21)
ยุนอา (Yoon Ah) สาววัย 18 ปี หนึ่งในสมาชิกวง โซนยอชิแด (So Nyeo Shi Dae) กับผลงานละครเรื่องล่าสุดในบทบาทของ จางแซบยอก (Jang Sae Byuk) ทางช่อง KBS1 You Are My Destiny เธอในมาดผมยาว ดวงตาที่ใสซื่อ รูปร่างผอมเพรียวทำให้ทุกคนเมื่อเห็นเธอแล้วจะทำให้นึงถึงตัวละครในการ์ตูนก็ไม่ปาน มันเหมือนเรื่องราวของซิลเดอเรล่า ที่ก่อนหน้านี้เธอก็เป็นสาวน้อยที่เปิดตัวมาในวงการเพลงเกาหลีโดยเป็นหนึ่งในสมาชิกวงโซนยอชิแด ที่ภายหลังได้ถูกคัดเลือกให้มารับบทบาทนักแสดงนำในละครประจำวันเรื่องนี้ มันค่อนข้างจะพิเศษสำหรับนักแสดงวัยรุ่นเช่นเธอ
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเหมือนเด็กสาวทั่วไป แต่เธอและ ชุนฮยังจอน (Chun Hyang Jun) หญิงสาวจากเรื่องเล่าในยุคโชซอนของเกาหลี ที่มีอายุเท่ากันกับเธอ ทั้งคู่มีภาพลักษณ์ที่ดูเปราะบางภายนอก แต่ภายในนั้นมีความคิด แข็งแกร่ง และเอาจริงเอาจังราวกับผู้ใหญ่ คุณสามารถบอกได้จากลักษณะการพูดจาที่เป็นผลมาจากการฝึกหนักในด้านการแสดงกว่า 5 ปี โดยไม่มีวันหยุด เพื่อต่อเติมความฝันของตัวเธอเอง
▲จากไอดอลสตาร์สู่ “น้องสาวแห่งเกาหลี”
เธอยิ้มอย่างอายๆพร้อมกล่าวถึงการที่เธอได้ร่วมงานในละครเรื่อง You Are My Destiny ส่งผลให้แฟนๆที่มีอายุได้รู้จักเธอมากขึ้น เธออธิบายต่อว่าในขณะที่เธอเป็นสมาชิกโซนยอชิแด กลุ่มแฟนของพวกเธอก็ถูกจำกัดไว้ในระดับหนึ่ง แต่ทุกวันนี้เมื่อเธอเดินออกไปข้างนอก ชายและหญิงวัยกลางคนรวมไปถึงผู้สูงอายุต่างก็รู้จักเธอในฐานะ ‘เด็กหญิงจากในละคร’ และนั่นมันเหมือนเป็นกำลังใจให้กับตัวเธอเอง ยุนอาเริ่มเข้าสู่วงการนักแสดงอย่างเป็นทางการกับละคร MBC เรื่อง 2 Outs 9 In และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเธอก็ได้ทำให้คนดูทึ่งในฝีมือการแสดงในละครเรื่อง The Unique Park Jung Geum แต่ถึงกระนั้น เธอก็กล่าวว่าความยากที่สุดในการแสดงละครประจำวันก็คือการที่ต้องท่องจำบทจำนวนมากที่ออกอากาศทุกๆอาทิตย์ เธอกล่าว “สำหรับนักร้องแล้ว พวกเขาสามารถหยุดพักหลังการแสดงจบลง แต่มันใช้กับนักแสดงไม่ได้เพราะว่าพวกเขาจะต้องใช้เวลาท่องจำบทเกือบจะตลอดเวลาแม้ในกระทั่งวันที่พวกเขาไม่มีการถ่ายทำ นั่นเองเป็นสาเหตุที่ฉันต้องมีบทละครติดตัวอยู่ตลอดเวลาถึงแม้ว่าวันนั้นฉันจะไม่ได้เข้าฉากก็ตามที” ต้องขอบคุณกำลังใจที่ได้จากนักแสดงฝีมือระดับพระกาลอย่าง ซามิจา, จางยอง, จองแอริ รวมไปถึงนักร้องที่หันมาเอาดีด้านการแสดงอย่าง อีจีฮุน (Lee Ji Hoon) ที่ทำให้เธอมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
▲ซินเดอเรล่า? เหมือนกับตุ๊กตาล้มลุก
ถึงแม้ยุนอาจะดูเหมือนโด่งดังในช่วงข้ามคืน แต่จริงๆแล้วเธอคือ “มืออาชีพ” ในการทำงาน จากการที่เธอผ่านออดิชั่นมามากกว่า 150-200 ครั้ง นับตั้งแต่ก่อนเข้าสู่วงการบันเทิง เธอมีความไฝ่ฝันที่อยากจะโลดเล่นอยู่ในวงการบันเทิงตั้งแต่ยังเด็ก และโอกาสก็มาถึงเมื่อในปี 2002 เธอได้ผ่านการออดิชั่นกับ SM Entertainment ต้นสังกัดเธอในปัจจุบัน ส่งผลให้เธอได้เป็นศิลปินฝึกหัดตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ถึงแม้ว่ายุนอาจะเป็นเด็กสาวที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นและต้องการจะใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนๆเหมือนคนปกติ แต่เธอก็มักจะเดินทางไปฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอหลังจากเลิกเรียน และใช้เวลาอยู่ที่นั่นถึงกว่า 4 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว “ถึงแม้ว่าบ่อยครั้งที่ฉันรู้สึกหมดแรงไปจริงๆ แต่มันก็สนุกมากค่ะ ฉันชอบ” เมื่อใดที่เธอรู้สึกว่าใช้พลังงานไปจนหมดสิ้น เธอก็มักจะไปหยิบเทปการแสดงโชว์ของศิลปินคนอื่นๆมาดูเพื่อสร้างเสริมวินัยการฝึกให้กับตัวเอง
▲ปาร์ตี้วันเกิดหลังจากเดบิว
ยุนอากล่าวอย่างอายๆว่านี่เป็นเวลาเพียง 9 เดือนหลังจากที่เธอเปิดตัวเข้าสู่วงการ และถึงแม้ว่าวันเกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมาจะเป็นวันเกิดแรกในฐานะศิลปิน เธอได้ใช้เวลาทั้งวันอยู่กับทีมงานในละครเรื่อง You Are My Destiny เธอกล่าว “ฉันจะไม่มีวันลืมเลยค่ะ เพราะในวันนั้นทีมงานทั้งหมดของละครทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับฉัน” เธอได้รับเค้กในช่วงเช้าตอนตี 4 จากทีมงาน และอีกครั้งในตอน 4 ทุ่ม หลังจากที่ถ่ายละครกันมาทั้งวัน ทีมงานก็ทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับเธอ ทำให้ในวันนี้เธอได้ฉลองวันเกิดถึง 2 ครั้งเลยทีเดียว บรรดาแฟนๆก็ยังได้นำอาหารมาเลี้ยงทีมงานละครด้วย เธอยกนิ้วให้ทีมงานพร้อมกล่าวว่าถึงแม้ว่านี่จะเป็นละครเรื่องที่ 3 สำหรับเธอเอง แต่เธอก็รู้สึกรักทีมงานและนักแสดงในเรื่อง เพราะตอนนี้เหมือนกับพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว ต้องขอบคุณบทบาทของละครที่มีเรื่องเกี่ยวข้องกับครอบครัวอยู่เป็นทุนเดิม
▲ครอบครัวคือแหล่งพลังงานชั้นเยี่ยม
ครอบครัวของยุนอาให้การสนับสนุนเธอเป็นอย่างดี พวกเขายังให้คำแนะนำที่ดีเมื่อตอนที่เธอยังเป็นศิลปินฝึกหัด พี่สาวยุนอาที่ดูสวยไม่แพ้น้องสาว อายุมากกว่า 5 ปีเป็นคนที่สนับสนุนเธอมากที่สุด ยุนอายังได้พูดถึงเรื่องราวที่ค่อนข้างแปลกเกี่ยวกับเพื่อนของเธอหลังจากเข้าสู่วงการ “เพื่อนสนิทของฉันเหมือนเดิมค่ะ แต่เพื่อนคนอื่นๆคงรู้สึกแปลกๆไปกับการที่จะได้เจอเพื่อนของพวกเธอ เพราะฉันก็เป็นเด็กนักเรียนเหมือนคนอื่นๆนั่นแหละค่ะถึงแม้ว่าสองสามวันก่อนฉันจะปรากฏตัวอยู่ในรายการโทรทัศน์ก็ตามที การที่ฉันหายไปจากหน้าจอเป็นเวลากว่า 2 เดือนมันอาจจะดูยาวนานเกินไปค่ะ” มันค่อนข้างหนักหนาสาหัสกับการรับบทเป็น จางแซบยอก ในวัย 20 ปี แต่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องดูขัดอย่างแน่นอนถ้าต้องพยายามจะแสดงให้เหมือนเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นเธอจึงใส่ใจกับน้ำเสียงและเสื้อผ้าที่ใส่ให้เหมาะกับความนิยมในตัวเธอภายในเวลาอันสั้นหลังจากเดบิว ยุนอาตอบคำถามที่ค่อนข้างดูเป็นผู้ใหญ่ว่า “ถ้าคุณพยายามอย่างหนัก ทุกคนก็จะสัมผัสได้ ฉันรู้สึกว่าฉันได้โอกาสเหล่านี้เพราะฉันพยายามอย่างหนักมาตลอด” เมื่อถูกถามว่าเธอเข้ามาคัดเลือกนักแสดงในละครเรื่องนี้ได้อย่างไรเธอกล่าว “คิดไว้ว่าเราเป็นน้องใหม่ ฉันไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเลือกหรือไม่เลือกรับเล่นในละครเรื่องใดๆ ฉันเข้ามาออดิชั่น You Are My Destiny เพราะว่าฉันคิดว่าน่าจะสามารถเรียนรู้หลายๆสิ่งเกี่ยวกับชีวิตและการแสดงจากละครเรื่องนี้ได้ ตอนนี้ฉันไม่ค่อยรู้สึกกดดันแล้วค่ะ เพราะว่ามีนักแสดงฝีมือดีหลายคนในกองถ่ายที่ฉันสามารถเรียนรู้จากพวกเขาได้ ที่สำคัญเราถ่ายละครเรื่องนี้กันยาวนานมาก บรรยากาศรอบๆตัวมันทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายค่ะ”
▲เป็นนักร้องและนักแสดงในเวลาเดียวกัน
“เวลาที่ว่างฉันมักจะพยายามโทรหรือส่ง SMS ไปหาเพื่อนๆ โซนยอชิแด (So Nyeo Shi Dae) อยู่บ่อยๆค่ะ ถึงแม้ว่างานจะค่อนข้างยุ่ง แต่สุดท้ายเมื่อฉันกลับไปที่หอฉันก็จะได้เห็นสมาชิกทุกคนนอนหลับอยู่ตรงนั้น พวกเธอเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วก็สำหรับซูยองและยูริเป็นสองสาวที่ฉันเคยเรียนการแสดงด้วยตอนที่เป็นศิลปินฝึกหัด พวกเธอก็มาช่วยฉันซ้อมต่อบทด้วยค่ะ” ถึงแม้ว่าตอนนี้เธออยู่ในเกรด 12 (มัธยมศึกษาปีที่ 6) และต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่เธอก็จะต้องยุ่งอยู่กับการโปรโมทอัลบั้มที่ 2 ของโซนยอชิแด ซึ่งจะวางจำหน่ายในฤดูร้อนปีนี้ รวมถึงการปิดกล้องละครเรื่อง You Are My Destiny เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆที่ให้ความรักและสนับเธอตลอดมา ในช่วงแรกมันค่อนข้างยากสำหรับยุนอาที่จะต้องทำความเข้าใจความรู้สึกของเด็กกำพร้า รวมถึงเคราะห์ร้ายที่ส่งผลให้ตัวละครอย่างแซบยอกต้องตาบอด อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอใช้ความพยายามพิจารณาและได้เริ่มถ่ายทอดบทบาทของแซบยอก เธอก็รู้สึกว่าเธอได้กลายเป็นตัวละครนั้นไปจริงๆแล้ว เนื่องจากในตอนหนึ่งที่เธอต้องถูกกล่าวร้ายว่าขโมยของในจิมจิลบัง (ห้องซาวน่าสาธารณะ) และถูกไล่ออกมา ผลลัพท์คือเธอต้องแอบไปร้องไห้ในตู้โทรศัพท์อยู่คนเดียว
ยุนอา เปิดเผยว่าเป้าหมายในชีวิตของเธอคือการได้เป็นนักแสดงอย่าง จอนโดฮยอน (Jeon Do Hyun) ที่สามารถจะรับบทใดๆก็ได้อย่างเป็นธรรมชาติและรู้สึกมั่นใจในบทบาทที่ได้รับ เธอยังได้บอกถึงความปรารถนาด้วยว่าอยากจะร่วมงานกับ อีซอนคยูน (Lee Sun Kyun) จากละครเรื่อง White Tower และ Coffee Prince No.1 (ชายผู้รับบทเป็นชเวฮันซอง พี่ชายของฮันคยอล) โดยเธอยิ้มอย่างอายๆพร้อมเสริมว่าเธอชอบเสน่ห์ในน้ำเสียงและการแสดงของเขาเป็นอย่างมาก ยุนอายังบอกด้วยว่าถ้าให้เลือกจุดด้อยของตัวเองนั้นเธอจะเลือก มือ และเท้า เพราะมันไม่ดึงดูดเอาเสียเลย ยุนอาเป็นคนเงียบชอบคิดเรื่องราวต่างๆอยู่คนเดียวไม่ค่อยชอบพูดออกไปมากนัก เธอยิ้มหัวเราะพร้อมกล่าว “ฉันจะต้องเป็นคนที่กระฉับกระเฉง และต้องทำงานให้หนักมากขึ้นทั้งในด้านเพลงและการแสดงเหมือนกับจางแซบยอก เพื่อให้มีอนาคตที่สุขสว่างและกลายเป็นคนที่มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น”